| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 40,950.00 | 41,050.00 |
| ทองรูปพรรณ | 40,219.48 | 41,550.00 |
| วันนี้ 300 | 50 | |
| 26 เมษายน 2567 | เวลา 15:19 น. | (ครั้งที่ 5) |
สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) รายงานราคาทองชนิด 96.5% ประจำวันจันทร์ต้นสัปดาห์ที่ 7 มิถุนายน 2556 เวลา 09:26 น.(ครั้งที่ 1)
ราคาทองคำแท่ง รับซื้อคืนบาทละ 20,100 บาท ขายออก 20,200 บาท
ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อคืนบาทละ 19,814.12 บาท ขายออก 20,600 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบปิดตลาดเมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2556)
ส่วนค่าเงินบาทเปิดที่ 30.64-30.66 แนวโน้มยังอ่อนค่าตามภูมิภาค
บรรยากาศความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยประจำวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ 7 มิถุนายน 2556 ดัชนีผันผวนอย่างมาก โดยเปิดตลาดดัชนีปรับร่วงทันที โดยแตะระดับต่ำสุดที่ 1,483.75 จุด ก่อนมีแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามาทำให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงบ่ายดัชนีปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,516.69 จุด ก่อนย่อตัวลงมาปิดการซื้อขายที่ 1,516.24 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด (1.75%) มูลค่าการซื้อขาย 52,002.95 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนมาก โดยช่วงเช้าตลาดปรับตัวลดลงไปถึง 1,483 จุดก่อนที่จะมีการดีดกลับขึ้นมาแรงเนื่องจากเป็นผลทางเทคนิคเคิลรีบาวน์หลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวลงไปมากจากระดับเกือบ 1,650 จุดลงไปมากกว่า 150 จุด ทั้งนี้ เนื่องจากความไม่ชัดเจนในเรื่องของคิวอี
– ทองปิดบวกหลังแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน
– SPDR ถือทองลดลง 2.71 ตัน
– ค่ำนี้(7 มิ.ย.56)ติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ
ราคาทองคำอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับในการซื้อขายช่วงบ่าย และเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัวก่อนที่ในการซื้อขายช่วงค่ำหลังจากตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการได้มีแรงซื้อกลับเข้ามามากจนราคาดีดตัวขึ้นค่อนข้างแรง แต่โดยรวมแล้วยังคงเป็นการแกว่งตัว เพื่อรอติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในช่วงค่ำของวันนี้(ศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2556)
ค่าเงินบาทเช้านี้ศุกร์สุดสัปดาห์ที่ 7 มิถุนายน 2556 เปิดตลาดที่ 30.54-30.57 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัวในกรอบแคบ แนะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
นักค้าเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 30.54-30.57 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากที่ปิดตลาดวานนี้(พฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2556)ที่ระดับ 30.58-30.60 บาทต่อดอลลาร์ ตามแรงซื้อขายปกติของนักลงทุน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบค่าเงิน อย่างไรก็ตาม หลังเปิดตลาด เงินบาทได้อ่อนค่าลงมารที่ระดับ 30.60 บาทต่อดอลลาร์
นักค้าเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทปิดตลาดวันนี้(พฤหัสฯที่ 6 มิ.ย.56)ที่ระดับ 30.58-30.60 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับที่เปิดตลาดในช่วงเช้าที่ระดับ 30.56-30.59 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างวันอ่อนค่าสุด 30.63 บาทต่อดอลลาร์
ปัจจัยหลักที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าในช่วงนี้ คือ การไหลออกของเงินทุนต่างชาติ สะท้อนจากทิศทางตลาดหุ้นที่ปรับลดลงต่อเนื่องหลายวันทำการ
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 3.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,402.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Gold spot) ราคาทองคำได้รับแรงหนุนหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯของ ADP เพิ่มขึ้นเพียง 135,000 รายในเดือนพฤษภาคม 56 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ไว้ 171,000 ราย จากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ออกมาต่ำทำให้มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์ซึ่ง(7 มิ.ย.56) รวมการจ้างงานภาครัฐฯจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้ตลาดคาดว่า FED จะยังคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
โดยค่าเงินดอลลาร์เทียบตะกร้าสกุลเงินหลักอ่อนค่าลงวานนี้หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในรูปของดอลลาร์ วันนี้ติดตามการประชุม ECB ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ 0.5% ค่าเงินบาทยังคงทิศทางการอ่อนค่าโดยเช้านี้อยู่ใกล้ระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 1,010.45 ตัน
– ทองทรงตัวส่วนดาวโจนส์ร่วงกว่า 200 จุด
– จ้างงานภาคเอกชนสหรัฐต่ำกว่าคาด
– คาดทองยังแกว่งตัวแคบรอรายงานจ้างงานวันศุกร์(7 มิ.ย.56)
– ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนแต่ยังเป็นการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับแนวต้านทางเทคนิค โดยราคาเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังรายงานการจ้างงานทั่วประเทศของสหรัฐออกมาแย่กว่าที่ตลาดประเมิน แต่ก็มีแรงขายกลับออกมาในการซื้อขายช่วงค่ำหลังตลาดอนุพันธ์ของไทยปิดทำการ จนราคาทองปิดตลาดลดช่วงการบวกลง
ค่าเงินบาทเช้านี้(พฤหัสฯที่ 6 มิ.ย.56)เปิดตลาดที่ 30.56-30.59 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัวจากวานนี้ แนะจับตาทิศทางเงินไหลออก คาดกรอบเคลื่อนไหว 30.50-30.80 บาทต่อดอลลาร์
นักค้าเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้(พฤหัสฯที่ 6 มิ.ย.56)เปิดตลาดที่ระดับ 30.56-30.59 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับที่ปิดตลาดวานนี้(พุธที่ 5 มิ.ย.56) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบ โดยทิศทางของเงินบาทอ่อนค่าลง หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ประกอบกับช่วงนี้มีเงินทุนไหลออก
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลง 12.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,399.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Gold spot) ราคาทองคำอ่อนตัวลงเกือบ 1% คืนวานนี้(อังคารที่ 4 มิถุนายน 2556) หลังธนาคารกลางอินเดียขยายมาตรการจำกัดการนำเข้าทองคำที่ประกาศใช้เฉพาะกับภาคธนาคารในเดือนก่อน โดยจะมีผลครอบคลุมไปถึงบริษัทเทรดดิงและตัวแทนจำหน่ายด้วย มาตรการนี้เป็นผลมาจากการนำเข้าทองคำของอินเดียเพิ่มสูงขึ้นถึง 19.5 ตันสู่ 162 ตันในเดือนพฤษภาคม 56
ทั้งนี้ตลาดรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่จะมีในคืนนี้เนื่องจากเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดนโยบายของ FED ทางด้าน เอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด ซึ่งมีสิทธิออกเสียงในการประชุม FOMC ยังคงเรียกร้องให้ FED ลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าโดยใกล้ระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำลดลง 2.7 ตัน มาอยู่ที่ระดับ 1,010.45 ตัน
นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้(พุธที่ 5 มิถุนายน 2556)อยู่ที่ระดับ 30.4-30.47 บาทต่อดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้(อังคารที่่ 4 มิถุนายน 2556)ที่ระดับ 30.42-30.44 บาทต่อดอลลาร์ และเมื่อเวลา 09.10 น.เงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 30.55-30.57 บาทต่อดอลลาร์
“เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าตามแรงซื้อดอลลาร์ (เงินบาท)มีโอกาส test 30.80 บาทต่อดอลลาร์” นักบริหารเงิน กล่าว
– ทองปิดลดลงรอติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ
– SPDR ถือทองลดลง 2.7 ตัน
– ซื้อ Spread เก็งกำไรความผันผวนของราคาทอง
ราคาทองคำและโลหะเงินโดยรวมแล้วปรับตัวลดลงจากระดับปิดของวันจันทร์ แต่เป็นการเคลื่อนไหวทรงตัวระหว่างแนวรับและแนวต้านทางเทคนิค ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนต่างรอติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในช่วงปลายสัปดาห์ จึงทำให้ราคาทองและตราสารอื่นๆเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 25.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,411.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Gold spot) ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้งวานนี้(จันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2556) หลังปรับขึ้นเกือบ 2% โดยได้แรงหนุนจากอ่อนค่าลงกว่า 1% ของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบตะกร้าสกุลเงินหลัก
หลังจากการประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าที่คาดโดยลดลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนพ.ค.56 ซึ่งการต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนการชะลอตัวของภาคการผลิตสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามตลาดจับตาการรายงานตัวเลขการจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐฯเนื่องจากเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดนโยบายของ FED