ทองคำเริ่มทรงตัว หลังพุ่งแรงวันอังคาร ในประเทศเปิดตลาดคงที่
โดย
ราคาทองคำเช้านี้ค่อนข้างทรงตัวหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาปรับตัวลดลง จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากวันอังคารราคาพุ่งขึ้นปริมาณมากส่วนรายงาน Beige Book เมื่อคืนนี้พบเศรษฐกิจสหรัฐขายตัวเล็กน้อย ส่งผลคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
เมื่อคืนที่ผ่านมา นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากทองคำทะยานขึ้นกว่า 2% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากมีรายงานว่า ข้อมูลภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบกว่า 6 ปี
ส่วนรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige Book) เมื่อคืนนี้ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค.และพื้นที่ส่วนใหญ่ของเฟดทั้ง 12 เขตมีการรายงานแรงกดดันจากค่าจ้างที่ค่อนข้างต่ำ และมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า และจากข้อมูลดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ขณะที่เมื่อวานนี้ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลกได้ขายทองคำออกมา 0.33 ตัน หลังจากเมื่อวันอังคาร กองทุน SPDR เข้าซื้อทองปริมาณสูงถึง 14.25 ตัน
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ จะมีการการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ซึ่งคาดการณ์ว่า ECB จะยังคงไม่มีมาตราการเพิ่มเติมทางเศรษฐกิจ ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้น
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันพฤหัสบดี ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ปรับขึ้น 250 บาท โดยขณะนี้ทองคำตลาดโลกเคลื่อนไหวค่อนข้างน้อยหลังจากพุ่งขึ้นแรงในวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลมายังทองคำในประเทศเช้านี้ราคาคงที่ อย่างไรก็ดี เช้านี้พบว่าทิศทางของค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าตามทิศทางค่าเงินภูมิภาค ซึ่งด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อทองคำในประเทศแต่คงไม่มากเนื่องจากขณะนี้เงินบาทก็ยังอยู่ในระดับแข็งค่า
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบแคบลง และคาดจะมีการสร้างฐานที่บริเวณ 1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,350-1,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านที่ 1,365ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่คาดจะเป็นแนวต้านแข็งแกร่งระยะสั้น ขณะที่มีแนวรับระยะสั้นที่ 1,340 และ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ดอลลาร์อ่อน-จีดีพีสหรัฐต่ำหนุนแรงซื้อทองคํา ทองไทยบาทอ่อนหนุน
ทองคําโลกปรับฐานรอเศรษฐกิจสหรัฐ ทองไทยบาทอ่อนค่าหนุนปรับขึ้น
เศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณชะลอตัวฉุดดอลลาร์อ่อนค่าหนุนทองคําฟื้น
คลายกังวลตะวันออกกลางฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยร่วงแรงตาม
ทองคําโลกเคลื่อนไหวระดับสูง ทองในประเทศเงินบาทอ่อนค่ามากหนุน
วิกฤตตะวันออกกลางหนุนแรงซื้อทองคํา ทองไทยเงินบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงซื้อหนุนทองคําโลดดีดตัวขึ้น ทองไทยบาทอ่อนค่ามากหนุนนิวไฮ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 40,800.00 | 40,900.00 |
| ทองรูปพรรณ | 40,067.88 | 41,400.00 |
| วันนี้ 150 | 50 | |
| 26 เมษายน 2567 | เวลา 09:24 น. | (ครั้งที่ 2) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง