ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มาตั้งแต่เมื่อวาน เนื่องจากตลาดการเงินของสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า(Thanksgiving Day) โดยการซื้อขายเป็นไปค่อนข้างเงียบเหงา ประกอบกับไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ทองคำก็ยังคงถูกกดดันจากประเด็นนโยบายการเงินของสหรัฐ

เมื่อวานนี้(วันพฤหัสบดี) เป็นวันแรกที่ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า(Thanksgiving Day)และต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์ โดยในวันศุกร์ตลาดจะเปิดทำการเพียงครึ่งวัน นอกจากนี้ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ จึงส่งผลให้ทองคำพบการเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าปัจจัยส่วนใหญ่ในสัปดาห์หน้าอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำให้เกิดการผันผวนได้ เนื่องจากจะมีทั้งการประกาศตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะส่งผลไปถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะประเมินว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้หรือไม่

และนอกจากนี้ยังมีประเด็นเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกันซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อทิศทางของทองคำให้เกิดความผันผวนผ่านปัจจัยค่าเงิน โดยนักลงทุนในตลาดจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ซึ่งนักวิเคราะห์มีการคาดการณ์ว่า อีซีบีจะพิจารณาเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 3 ธันวาคมนี้หรือไม่ ซึ่งหากว่าอีซีบีเพิ่มเติมมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจะส่งผลให้เงินสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร

ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ตลอดทั้งวัน โดยราคาซื้อขายของทองคำยังเป็นราคาซื้อขายมาตั้งแต่ช่วงปิดตลาดเมื่อวันพุธ ส่วนค่าเงินบาทก็ค่อนข้างทรงตัวในระดับอ่อนค่า ขณะที่เปิตดลาดทองในประเทศเช้าวันศุกร์สุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศิจกายน ราคาซื้อขายทองก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาซื้อขายเมื่อวันพุธ นอกจากนี้เงินบาทก็ยังคงอยู่ในลักษณะทรงตัวในกรอบแคบๆ โดยนักบริหารการเงิน มองว่า สัปดาห์มีปัจจัยสำคัญหลายๆ ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,065-1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระยะสั้นทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,065 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,080 และ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ