ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองคำปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนในประเทศราคาทองปรับตัวลดลงสวนทางทองคำโลกจากปัจจัยเงินบาทแข็งค่า

ตลาดทองคำนิวยอร์กยังคงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ เนื่องจากทองคำถูกกำหนดการซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ และเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจะส่งผลให้ทองคำมีความดึงดูดใจเพราะราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ

และปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.

นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ เนื่องจากจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนก.ย. ทะยานขึ้นสู่ระดับ 1.0% จาก 0.6% ในเดือนส.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2557 รวมทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.9%

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ เริ่มจากฝั่งเอเชียในช่วงเช้าจีนจะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอย่าง ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ซึ่ง ตลาดคาดว่าตัวเลขจีดีพีของจีนจะขยายตัว 6.7% เท่ากับไตรมาส 2 และนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจีดีพีของจีนจะมีผลต่อตลาดหุ้นมากกว่าตลาดทองคำในกรณีที่ตัวเลขออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาด

ขณะที่รายงานเศรษฐกิจทีสำคัญของสหรัฐในช่วงคืนวันนี้ จะมีการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและการเริ่มสร้างบ้านใหม่เดือนก.ย. โดยตลาดคาดว่าจะออกมาดีขึ้นทั้ง 2 ตัวและคาดจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดทองวันพุธราคาคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ โดยทองคำในประเทศคาดว่าจะถูกปัจจัยลบกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท โดยเช้านี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 34.96 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคสดใส ถ้าผ่านแนวต้าน 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้จะเกิดสัญญาณซื้อเนื่องจากเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ทำให้มีแนวต้านถัดไปที่ 1,270 และ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,250-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์