ทองร่วงต่อหลังหุ้นทั่วโลกพุ่ง ในประเทศลงอีกหลังวานนี้ลง200
โดยราคาทองในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากที่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นแรงรวมถึงการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในประเทศปิดตลาดวันศุกร์ลงอีก 50 ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ลดลง200
ราคาทองคําร่วงลงกลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 0.48% แตะที่ระดับ 100.40 นอกจากนี้การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ และนับเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายดัชนีดาวโจนส์เป็นต้นมา ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
นอกจากนี้ รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาสดใส ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันต่อตลาดทองคำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำเช่นกัน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการของสหรัฐเดือนมกราคม ดีดตัวสู่ระดับ 55.1 ใน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2015 หลังจากเดือนธันวาคมอยู่ที่ระดับ 53.9 ทั้งนี้ ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ ประกอบด้วย ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2559 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งแรก โดยตัวเลขคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.1% แต่เป็นการชะลอตัวลงจากไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 3.5% นอกจากนี้ยังมีรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธันวาคม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าทองคำอาจจะฟื้นตัวขึ้นสั้นๆ ในกรณีที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาย่ำแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้โดยเฉพาะตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันศุุกร์ราคาลดลงอีก 50 บาท หลังจากเมื่อวานราคาลดลง 200 บาทซึ่งลดลงต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าที่ลดลง 150 บาท รวมขณะนี้วันที่ 3 ทองคำในประเทศลดลงรวม 400 บาท ส่วนในเช้านี้ปัจจัยค่าเงินบาทพบการอ่อนค่าลงส่งผลกลับมาเป็นแรงหนุนต่อทองคำในประเทศได้เล็กน้อย
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า คาดจะมีแรงเทขายทำกำไรทองคำต่อเนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้มีแนวโน้มปรับลงสู่บริเวณ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่ปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งปรับขึ้นถึง 6% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 นอกจากนี้ตลาดการเงินจีนจะหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีนตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.-2 ก.พ.2560 ทำให้ขาดแรงซื้อทองคำจากจีนที่เป็นประเทศที่มีการบริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,172ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
วิกฤตตะวันออกกลางหนุนแรงซื้อทองคํา ทองไทยเงินบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงซื้อหนุนทองคําโลดดีดตัวขึ้น ทองไทยบาทอ่อนค่ามากหนุนนิวไฮ
กังวลเฟดคงดอกเบี้ยระดับสูงนานฉุดทองคําร่วง ทองไทยหลุดนิวไฮ
วิกฤตความตึงเครียดในตะวันออกกลางหนุนทองคําเคลื่อนไหวระดับสูง
วิกฤตตะวันออกลางหนุนแรงซื้อทองคํา ทองไทยเงินบาทอ่อนพุ่งนิวไฮ
วิกฤตตะวันออกกลางหนุนแรงซื้อหนุนทองคําโลก ทองไทยบาทอ่อนหนุน
เทขายทองคําโลกร่วงหนักหลังพุ่งนิวไฮเมื่อวาน ทองไทยลงแรงตาม
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 41,600.00 | 41,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 40,856.20 | 42,200.00 |
วันนี้ 100 | 100 | |
20 เมษายน 2567 | เวลา 09:01 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง