ราคาทองคำ ทรงตัวรอติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ
โดยราคาทองคำทรงตัว เพื่อรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ด้านนักวิเคราะห์ให้แนวต้านของวัน อยู่ที่บริเวณ 1,725-1,730 ดอลลาร์ ต่อออนซ์…
ราคาทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงกลางวัน หลังจากปรับตัวลงค่อนข้างแรงในการซื้อขายวันศุกร์ ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปที่ยังสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
โดยเมื่อวานนี้ที่ 1,715.29 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันศุกร์ 0.89 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,713 และ 1,721 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% วานนี้ ขายออกที่บาทละ 25,000 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,900 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,348.83 ตัน
เมื่อวานนี้ มีการรายงานผลสำรวจซึ่งพบว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของประเทศในยูโรโซนจากบริษัท Markit เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 46.2 ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 45.4 ในเดือนตุลาคม แต่ก็ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัวเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน ข้อมูลดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากข้อมูลเบื้องต้น เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งระบุว่าดัชนี PMI ขยายตัวมากกว่าตัวเลขคาดการณ์เชิงบวกมากที่สุดของนักเศรษฐศาสตร์ ในผลสำรวจของรอยเตอร์ ข้อมูลเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วระบุว่า ภาคการผลิตมีสัดส่วนราว 25% ของภาคเศรษฐกิจของยูโรโซน และหดตัวลง เนื่องจากภาคบริการที่ปรับตัวย่ำแย่ในเดือนพฤศจิกายน
ส่วนในประเทศที่อยู่ในกลุ่มยูโรโซนนั้น ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และกรีซยังคงมีรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตของประเทศเหล่านี้ชะลอตัวลง มีเพียงไอร์แลนด์ ที่ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศและกลุ่มยุโรปไปเมื่อ 2 ปีก่อนเท่านั้น ที่มีรายงานว่าภาคการผลิตมีการขยายตัวขึ้น ดังนั้นประเด็นเหล่านี้จึงยังคงเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทอง ผ่านการอ่อนค่าของเงินยูโร ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ นั้น ก็ยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองตามรายงานข่าวต่างๆ ที่มีออกมา
โดยเมื่อคืนนี้ ความกังวลเรื่องปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยลบกดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง และกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล แต่ราคาทองกลับเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว โดยคาดว่าการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์จะทำให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจถือครองทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ได้
และในช่วงนี้การเจรจาต่อรองจากสมาชิกทั้ง 2 พรรค จะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองจะเป็นการเหวี่ยงตัวขึ้นลงตามรายงานข่าวต่างๆ ที่มีออกมา ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคนั้นยังคงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมามากหากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,700-1,705 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ได้ โดยคาดว่าราคาอาจปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,690 และ 1,680 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับได้ต่อไป
ส่วนแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,725-1,730 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณนี้ได้ ก็จะเกิดเป็นการยุติสัญญาณขายที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทองคําปรับเพิ่มขึ้น หลังเงินเฟ้อสหรัฐลดลงหนุนเฟดลดดอกเบี้ย
ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์หนุนแรงซื้อทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้น
แรงขายทำกำไรกดดันทองคํา คาดยังคงเคลื่อนไหวระดับบริเวณ 4,000$
ดอลลาร์แข็ง-แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําร่วงหนักเป็นประวัติการณ์
เชื่อมั่นเฟดลดดอกเบี้ย-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่ง
ทองคําฟื้นหลังสุดสัปดาห์ที่ร่วงหนักผ่อนคลายภาษีสหรัฐและจีน
ดอลลาร์แข็ง-คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนฉุดทองคําร่วงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 63,600.00 | 63,700.00 |
| ทองรูปพรรณ | 62,322.76 | 64,500.00 |
| วันนี้ 600 | 600 | |
| 25 ตุลาคม 2568 | เวลา 09:09 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ