ราคาทองคําวันนี้

ทองยังทรงตัวต่อเนื่อง วันนี้ตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการวันขอบคุณพระเจ้า ในประเทศเช้านี้บาทแข็งเล็กน้อยทองคงที่

ราคาทองคำยังเคลือนไหวในกรอบแคบบริเวณ ,1200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่รายงานตัวเลขเศรษฐสหรัฐยังเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำ ผ่านการแข็งค่าและอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในวันนี้ตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการเนื่องจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า(Thanksgiving Day) คาดว่าการเคลื่อนไหวของทองคำในวันนี้จะอยู่ในกรอบแคบมากขึ้น

โดยนักลงทุนต่างชะลอการซื้อขายก่อนที่ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า(Thanksgiving Day) นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาการลงประชามติของชาวสวิตเซอร์แลนด์ในวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อลงความเห็นว่าควรจะให้ธนาคารกลางสวิสปรับเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรองหรือไม่

ส่วนรายงานตัวเลขเศรษกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่าโดยรวมออกมาอ่อนแอเกินคาด ท่ามกลางภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กที่เป็นไปอย่างซบเซา

ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบต่ำกว่า $1,200 โดยผันผวนตามเศรษฐกิจสหรัฐ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งเล็กน้อย ทองคงที่

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบและกลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีความผันผวนเล็กน้อยตามรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาทั้งดีและไม่ดี ผ่านการอ่อนค่าสลับแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำอ่อนตัวลง ภายหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ขยายตัว 3.9% ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2557 ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 3.5% และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น จึงทำให้ความต้องการทองคำ ซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยนั้นลดลง

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ทองคำกลับดีดตัวขึ้นขานรับสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน ลดลงแตะที่ระดับ 88.7 จากระดับ 94.1 ในเดือนก่อนหน้า และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะ

แนวโน้มทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบราคา $1,190–$1,205 ในประเทศทองและเงินบาทก็ยังทรงตัว

ราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย หลังจากได้รับแรงกดดันจากจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปค) อาจจะไม่ปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ รวมถึงประเด็นการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้สกัดความต้องการลงทุนในทองคำ

ราคาทองคำยังคงมีความเสี่ยงในช่วงขาลง จากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า(2558) โดยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะลดความน่าดึงดูดใจของทองคำ หลังจากมีรายงานที่สนับสนุนประเด็นดังกล่าว จากรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐประจำวันที่ 28-29 ตุลาคมที่ผ่านมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดหลายรายมองว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในต่างประเทศ มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบที่ค่อนข้างจำกัดต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ทองคำยังได้แรงหนุนระยะสั้น ทางเทคนิคมีโอกาสปรับขึ้นต่อ ในประเทศเช้านี้ทองคงที่บาทแข็งเล็กน้อย

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสามารถขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังมีรายงานข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของจีนและคำแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปถึงความพยายามในการออกมาตรการสกัดภาวะเงินฝืด

ทองคำดีดตัวขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางจีนสร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยการประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2555 ซึ่งถือเป็นความพยายามล่าสุดของทางการจีนในการเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังจากที่ได้มีการอัดฉีดสภาพคล่อง และลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์แบบกำหนดเป้าหมาย

โดยธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% ทั้งนี้

ทองดีดตัวขึ้นเหนือ $1,200 หลังจีนลดดอกเบี้ยเหนือความคาดหมาย อีซีบีหนุนเพิ่มเงินเฟ้อ ในประเทศวันเสาร์ขึ้น 150

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับมาอยู่ยืนเหนือระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเหนือความคาดหมายของตลาด ซึ่งเป็นการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่าสองปีของจีน ขณะที่ประธานธนาคารกลางยุโรปย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งความเคลื่อนไหวของสองธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ

ทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้น โดยตลาดทองคำได้รับแรงหนุนจากความเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางชั้นนำของโลก โดยสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ระดับ 1,207.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% โดยมีผลตั้งแต่วันนี้
โดยการประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปี 2555 หรือในรอบกว่า 2 ปี และถือเป็นความพยายามล่าสุดของ

ทองคำยังถูกดันจากคาดการณ์เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ระยะนี้ยังผันผวนตามปัจจัยทางเทคนิค ในประเทศบาทแข็งทองคงที่

ราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากกระแสการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากในรายงานการประชุมของเฟดล่าสุดนั้น ยังไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำเป็นเวลานานเท่าใด และที่สุดนักลงทุนก็ยังคงคาดการณ์ตามเดิมว่าเฟดอาจจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีหน้านี้ และนอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงนั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจากการที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ อันเนื่องมาจากธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป

นอกจากนี้ จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังคงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดย