ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง44,150.0044,250.00
ทองรูปพรรณ43,357.6044,750.00
วันนี้ 00
23 พฤศจิกายน 2567เวลา 09:00 น.(ครั้งที่ 1)

ข่าวข่าวราคาทองคำ


ฮั่วเซ่งเฮงคาดทองแกว่งตัวระหว่าง 1,670-1,700 ดอลลาร์


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า ราคาทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงกลางวันหลังจากทราบรายงานข่าวว่า สภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีมติให้ความเห็นชอบกฎหมายที่จะทำให้สหรัฐฯสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง แต่ด้วยตลาดการเงินของญี่ปุ่นและจีนยังปิดทำการ ทำให้แรงซื้อขายยังมีเข้ามาค่อนข้างน้อย แต่ในการซื้อขายช่วงค่ำ ราคาทองเริ่มดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงขายกลับออกมาจนราคาปิดตลาดลดช่วงการบวกลง โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,686.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.47 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,670 และ 1,694 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ขายออกที่บาทละ 24,250 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,150 บาท กองทุน SPDR รายงานว่ามีการลดปริมาณการถือทองคำลง 0.9 ตัน ส่งผลให้กองทุนถือครองทองคำรวม 1,349.92 ตัน

อานิสงส์จบหน้าผาการคลังสหรัฐส่งหุ้นไทยกระฉูด 1,400 จุด


หุ้นไทยสดใสรับปี 2556 หลังจากได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) คลี่คลายในช่วงหยุดปีใหม่ส่งผลให้เปิดตลาดวันแรกของปีหุ้นไทยกระฉูด 1,400 จุด ขณะราคาทองปรับขึ้น 150 บาท…

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในวันแรกของวันทำการในปี 2556 ตลาดหุ้นไทยสดใส ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 1,400 จุด ดัชนีปรับขึ้นกว่า 12 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) คลี่คลายในช่วงหยุดปีใหม่ หลังวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายประนีประนอม ด้วยคะแนนเสียง 89 ต่อ 8 ผ่านร่างกฎหมายที่จะช่วยให้สหรัฐฯสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ทำให้มีการขยายระยะเวลาการใช้มาตรการภาษีฉบับปัจจุบัน และเลื่อนการลดการใช้ จ่ายโดยอัตโนมัติออกไปเป็นเวลา 2 เดือน

ฮั่วเซ่งเฮงเผยทองนิ่งรอตามผลการประชุมสภาผู้แทนสหรัฐ


เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ฮั่วเซ่งเฮงรายงานสถานการณ์ทองคำว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากในการซื้อขายวันจันทร์ซึ่งตลาดการเงินของสหรัฐฯเปิดทำการนั้นมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามามากจนราคาทองดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวที่แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตอบรับการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ อาจหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังได้สำเร็จ แต่ในขณะนี้ยังคงรอความชัดเจนของการประชุมสภาผู้แทนของสหรัฐฯว่าจะอนุมัติแผนการดังกล่าวหรือไม่หลังจากในวันจันทร์วุฒิสภาของสหรัฐฯได้อนุมัติแผนการในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังไปแล้ว โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,674.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันจันทร์ 1.00 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,665 และ 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม ขายออกที่บาทละ 24,100 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,000 บาท

ฮั่วเซ่งเฮง แนะจับตาปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ กระทบทองคำปี56


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นประเด็นหลักที่คาดว่าจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 2556 ซึ่งประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังและเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ เป็นประเด็นที่ต้องติดตามว่าจะมีแนวทางแก้ไขในลักษณะใด ส่วนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ นั้น ค่อนข้างชัดเจนว่าจะยังคงมีการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่ารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งอัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะปรับตัวดีขึ้น โดยในการประชุมครั้งหลังสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้แถลงค่อนข้างชัดเจนว่าการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จะผูกติดอยู่กับรายงานตัวเลขเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานเป็นสำคัญ และรายงานตัวเลขทั้ง 2 ยังคงเอื้อให้มีการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปในปี 2556 และอาจต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี ซึ่งการดำเนินนโยบายการเงินในลักษณะดังกล่าวนั้น เอื้อให้ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นได้ต่อในภาพรวม แต่ในระหว่างทางอาจมีการแกว่งตัวผันผวนตามรายงานข่าวต่างๆ ที่มีออกมา

ทองคำ….ปีมะเส็งยังขึ้นต่อ ภาพรวมผันผวน-เงินเฟ้อหนุนราคา


ทิศทางทองคำปีมะเส็ง คนในวงการเชื่อมีความผันผวนสูงแต่อยู่ในช่วงขาขึ้น ย้ำการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐฯ เป็นตัวชี้วัดต่อแนวโน้มของราคาช่วงไตรมาส 1 ส่วนระยะยาวเชื่อปัจจัยจากฟากเอเชียจะหนุนราคาทองปรับตัวเพิ่ม โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่ทั่วโลกหนีไม่พ้น คาดทั้งปีลุ้นสูงสุดเท่าเป้าหมายเดิม 1,800 เหรียญ/ออนซ์

นายสัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในปี 2556 ว่า นักลงทุนควรพิจารณาในเรื่องปัจจัยที่มีผลกระทบกับราคาทองคำเป็นลำดับแรก นั่นคือ สถานการณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะเป็นเช่นไร ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) จะเป็นเช่นไร จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า ถ้าเศรษบกิจของสหรัฐฯ ชะงักจากปัญหาดังกล่าว จะส่งผลให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่น่าสนใจอีกครั้ง

ส่วนในช่วงปลายปี 2555 ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงนั้น ประเมินว่า เป็นการโยกย้ายสินทรัพย์การลงทุนจากทองคำไปเป็นหุ้นเพื่อทำกำไรระยะสั้นมากกว่า ไม่ใช่เกิดจากความน่ากังวลว่าราคาทองคำมาสู่แนวโน้มปรับตัวลงอย่างถาวร เพราะหากดูปริมาณการเข้าลงทุนทองคำของกองทุนขนาดใหญ่อย่าง SPDR และธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ ยังพบว่า มีความต้องการเข้าสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง

ฮั่วเซ่งเฮง คาดทองปี56 แกว่งตัวผันผวน


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 2555 ให้อัตราผลตอบแทนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตราสารอื่นๆ รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวในปีก่อนๆ ประเด็นลบที่กดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมาจากความไม่มั่นใจสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จนทำให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินทุนไปพักไว้ในเงินดอลลาร์ที่ยังจัดเป็นสกุลเงินปลอดภัย ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปที่ยังมีรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง และส่งผลในทางอ้อมให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และท้ายที่สุดแล้วกดดันให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ในกรอบค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และสำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ รวมทั้งตราสารอื่นๆ ที่อ้างอิงอยู่กับราคาทองคำในต่างประเทศนั้น ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าราคาทองคำในรูปของเงินดอลลาร์ เนื่องจากทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในปีนี้ เมื่อแปลงราคาทองคำจากในรูปเงินดอลลาร์มาเป็นเงินบาทจึงมีผลตอบแทนที่ต่ำลง

ทองยังแกว่งตัวแคบ รอชัดเจนแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง


ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์แนะเลือกซื้อเก็งกำไร ช่วงดีดตัวกลับ และที่แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ต่อออนซ์…

ราคาทองคำเมื่อวาน ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดิม ประเด็นหลักที่นักลงทุนรอติดตามคือการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ที่เริ่มการเจรจาอีกครั้ง แต่ยังไม่มีข่าวคราวความคืบหน้า โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,663.56 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,653 และ 1,665 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ขายออกที่บาทละ 24,150 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,050 บาท

ราคาทอง รอชี้ชะตาการแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง


คาดราคาทองคำ ยังแกว่งตัว ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลัง นักวิเคราะห์แนะ ควรทยอยขายลดความเสี่ยงหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,665-1,670…

ราคาทองคำ ยังคงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแนวรับและแนวต้านทางเทคนิคแม้ว่า ตลาดการเงินของสหรัฐฯ และหลายประเทศจะกลับมาเปิดทำการหลังจากปิดการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่ด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่กลับเข้ามาลงทุน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนรอติดตามประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ และบางส่วนอาจรอกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งในช่วงหลังวันปีใหม่ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ

คาด ทองแกว่งตัวที่ระดับ 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์


ราคาทองยังมีแนวโน้ม ที่จะแกว่งตัวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้าน นักวิเคราะห์ แนะทยอยขายลดความเสี่ยง หากราคาดีดตัวขึ้น เข้าใกล้แนวต้าน บริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การปิดทำการของตลาดการเงินของหลายประเทศในยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารทางการเงินต่างๆ มีการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบค่อนข้างแคบ และในช่วงกลางสัปดาห์หลังจากตลาดการเงินของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ กลับมาเปิดทำการ หากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ก็ยังมีแนวโน้มที่ราคาทองคำและตราสารอื่นๆ เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับช่วงต้นสัปดาห์

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,658.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันจันทร์เพียง 1.3 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,651 และ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,100 บาท

คาดทองแกว่งตัวแคบช่วงวันหยุดคริสต์มาส


นักวิเคราะห์คาด ราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ช่วงวันหยุดคริสต์มาส เพื่อรอความชัดเจนการแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ…

ตลาดการเงินของหลายประเทศทั้งในยุโรปและเอเชีย ที่เริ่มปิดทำการในวันคริสต์มาส ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารทางการเงินอื่นๆ แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ โดยมีประเด็นลบจากปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจ และรอติดตามการเปิดประชุมของรัฐสภาสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์เกี่ยวกับการหารือเพื่อแก้ไขปัญหานี้

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,656.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันศุกร์ที่ผ่านมาเพียง 0.38 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,652 และ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,100 บาท

คาดสัปดาห์นี้ ทองยืนที่แนวต้าน 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์


ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว หลังได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวทางเทคนิค โดยนักวิเคราะห์ ให้แนวต้านสัปดาห์นี้ ไว้ที่ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์…

ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มฟื้นตัว หลังจากถูกแรงเทขายอย่างหนักจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับที่บริเวณ 1,636 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังติดแนวต้านที่ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 1,657 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันพฤหัส 10.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาขายออกที่บาทละ 24,100 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,000 บาท

ทั้งนี้ ทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากที่สามารถยืนเหนือแนวรับที่บริเวณ 1,636 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสัญญาณทางด้านเทคนิคบ่งบอกว่าเกิดภาวะขายมากเกินไป (Oversold) รวมทั้งการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา Fiscal cliff ของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีปัญหาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย กลับเข้ามา

ฮั่วเซ่งเฮงแนะติดตามการแก้ไขปัญหา fiscal cliff


ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่องจากแรงเทขายของกองทุนขนาดใหญ่ ซึ่งปรับตัวลงแรงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,680 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ในวันอังคาร และหลุดแนวรับที่ 1,660 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน โดยในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่าการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา fiscal cliff ใกล้บรรลุข้อตกลง นอกจากนี้กระแสข่าวที่ว่าบริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ สมิธ บาร์นีย์ แนะนำปรึกษาทางการเงินให้ถอนเงินลงทุนของลูกค้าออกจากกองทุนของจอห์น พอลสัน ซึ่งจอห์น พอลสัน ซึ่งเป็นผู้ที่คาดการณ์ราคาทองในทางบวกมาเป็นเวลานาน ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าพอลสันอาจจำเป็นต้องระบายการลงทุนในทอง นอกจากนี้มีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นที่จัดการประชุม 2 วันในวันพุธและวันพฤหัสมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 0-0.10% และเพิ่มวงเงินในมาตรการปล่อยกู้และซื้อสินทรัพย์ขึ้นอีก 10 ล้านล้านเยนเป็น 101 ล้านล้านเยน และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในครั้งถัดไปมีโอกาสปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเป็น 2% ซึ่งการปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวอาจส่งผลลบต่อค่าเงินเยนในอนาคต