ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วงแรงจากดอลลาร์แข็ง จากเศรษฐกิจสหรัฐสหรัฐสดใสส่งผลตลาดหุ้นพุ่งขึ้น ในประเทศทองเปิดเช้านี้ลง 150

ราคาทองคำร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา จากแรงเทขายทองคำอย่างหนักหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข้อมูลด้านแรงงานและผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชน

ทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดทะยานขึ้นกว่า 200 จุด หลังจากบริษัทรายใหญ่ของสหรัฐ รวมถึงแคทเทอร์พิลลาร์ ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลด้านแรงงานที่สดใสของสหรัฐ

โดยทั้งนี้ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและนักลงทุนมักจะเข้าซื้อในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะอ่อนแอ แต่หากเศรษฐกิจและตลาดหุ้นส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น นักลงทุนก็จะเทขายทองคำและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นตลาดหุ้น

ขณะที่ข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐที่สดใสก็เป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อราคาทองคำผ่านการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวง

ทองคำปรับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดได้แรงหนุนจากอีซีบีจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แนวโน้มยังขึ้นต่อ ในประเทศเช้านี้คงที่ บาทอ่อนเล็กน้อย

ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กเคลื่อนไหวปิดตลาดที่ 1,251.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขานรับรายงานข่าวที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) กำลังพิจารณาที่จะซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนเพิ่มเติม

ราคาทองคำตลาดโลกสามารถปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า อีซีบีกำลังพิจารณาซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนในตลาดรอง โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดภาวะเงินฝืดในยูโรโซน และคาดว่าอีซีบีอาจจะตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในเดือนหน้า ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาดูกระแสคาดการณ์ในตลาดที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ(NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนกันยายน แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ที่ 5.17 ล้านยูนิต และเป็นการดีดตัวขึ้นจากที่ปรับตัวลงโดยไม่คาดหมายใน

ทองคำยังปรับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีแรงหนุนจากแรงซื้อจากอินเดียและจีน คาดแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นน้อย

ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อวานตลาดทองคำนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หลังจากได้รับแรงหนุนจากความต้องการซื้อทองคำจากจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับ 1 และ 2 ของโลก ประกอบกับแรงหนุนจากการที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นขานรับรายงานที่ว่า ความต้องการทองคำของอินเดียปรับตัวสูงขึ้นก่อนที่จะถึงเทศกาลทิวารีและฤดูการวิวาห์ รวมทั้งรายงานที่ว่า ปริมาณการซื้อขายทองคำในจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2556

ขณะเดียวกัน รายงานข่าวจาก สำนักข่าวซินหัว ว่า กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำรายใหญ่สุดของโลกได้ปรับเพิ่มการถือครองทองคำ 1.5 ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเข้าซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นในรายสัปดาห์ครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ในประเทศบาทเช้านี้เงินบาทนิ่ง ทองลง 50

ราคาทองสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง หลังมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ เป็นเหตุให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง โดย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนตุลาคม ที่รายงานโดย รอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้พบว่า ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับ 84.6 จากเดือนก่อนหน้า และนอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 6.3% อยู่ที่ระดับ 1.02 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว บ่งชี้ว่าการสร้างงานอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนภาคก่อสร้างของสหรัฐในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายด้วยสกุลเงินนี้ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น

ทองคำอ่อนตัวลง หลังตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นจากรายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ในประเทศทั้งสัปดาห์ทองขึ้น 200

ราคาทองคำอ่อนแรงลดช่วงบวกลง จากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลก หลังมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก และได้กดดันให้ราคาทองคำเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา

ทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐอีกครั้ง อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

เมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นกว่า 263.17 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการภาคเอกชนที่สดใส และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

โดยรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนตุลาคมว่า ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 86.4 จากระดับ 84.6 ในเดือน

ทองคำลดลงหลังข้อมูลแรงงานสหรัฐดีเกินคาด แนวโน้มยังขึ้นต่อแต่เพียงกรอบจำกัด ในประเทศเช้าบาทแข็งทองลง 100

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังได้รับแรงกดดันจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจด้านแรงงานของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากนักวิเคราะห์ว่า ตลาดทองคำอาจจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำที่สูงขึ้นในช่วงก่อนถึงเทศกาลที่สำคัญของอินเดีย ส่งผลให้การปรับตัวลงของราคาทองมีกรอบจำกัด

เมื่อคืนที่ผ่านมาข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 23,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะที่ 264,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2543 สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 290,000 ราย

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดผลผลิตในภาคการผลิต สาธารณูปโภค