ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วงหนักกว่า 2% จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งรวมถึงสถานการณ์ยูเครนเริ่มคลี่คลาย ส่งผลในประเทศลงแล้ว 350 บาท

ราคาทองคำร่วงหนักกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยทองคำตลาดนิวยอร์ค(COMEX) ปิดตลาดร่วงลง 26.2 ดอลลาร์ หรือ 2.03% ที่ระดับ 1265.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ 3 สัปดาห์ติดต่อกันทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบมาต่อเนื่อง โดยสาเหตุหลักของการร่วงลงของทองคำในครั้งนี้มาจากที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน หลังจากการเลือกตั้งในยูเครนผ่านไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำ

นักลงทุนคลายความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนหลังจากที่มีการเลือกตั้งประธานาบดีในยูเครนผ่านพ้นไปด้วยดี โดย นายเปโตร โปโรเชนโก ได้รับชัยชนในการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนด้วยคะแนนเสียง 55% พร้อมกันนี้ นายเปโตร โปโรเชนโก ประกาศพร้อมเดินหน้าเจรจาแก้ไขความขัดแย้งกับรัสเซียทันที ขณะเดียวกันประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ก็ส่งสัญญาณว่า รัสเซียพร้อม

ทองเคลื่อนไหวน้อย เมื่อวานตลาดสหรัฐปิด ภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ในประเทศทองนิ่งมา 3 วันแล้ว

ราคาทองคำเคลื่อนไหวเล็กน้อย สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ตลาดธุรกรรมทางการเงินสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก(Memorial Day) โดยตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาภาพรวมของราคาทองคำพบว่าเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่อง

ประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่เป็นปัจจัยหนุนทองคำในระยะสั้น ยังคงต้องติดตามว่าจะมีเหตุการณ์ตึงเครียดต่ออีกหรือไม่ ภายหลังมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งชาวยูเครนคาดหวังว่าประธานาธิบดีคนใหม่นี้จะสามารถสร้างเสถียรภาพให้กลับยูเครน

ขณะที่ มีรายงานเพิ่มเติมว่าในเวลานี้ทองคำยังได้รับความสนใจเข้าซื้อจากนักลงทุนในจีนอยู่บ้าง ส่วนในอินเดีย นายนาเรนดา โมดิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้

ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และแนวโน้มคาดคงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อ เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ

ราคาทองคำโดยรวมแล้วยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจากปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามาส่วนใหญ่แล้วมีผลต่อการเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาทองไม่มากนัก และยังไม่พบมีปัจจัยใหม่ๆ ที่เข้ามาชี้นำทองคำในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามประเด็นหลักอย่างตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐนักลงทุนก็ยังให้ความสนใจเป็นพิเศษ รวมถึงประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองในยูเครนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนเสร็จสิ้นลงไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมถึงประเด็นการเมืองในไทยหลังการเข้ายึดอำนาจ

และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาด กดดันราคาทองให้อ่อนตัวลง โดยยอดขายบ้านใหม่ในเดือนเมษายนขยายตัวขึ้น 433,000 แสนยูนิต ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และลดความน่าสนใจในตลาดทองคำ

ทั้งสัปดาห์นี้ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ $1,280-1,305 ในประเทศประเด็นการเมืองทำทองผันผวนผ่านเงินบาทแต่สรุปก็ยังคงที่

ภาพรวมของราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(19-23 พ.ค.)พบว่าราคาเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,280-1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากปัจจัยหลักอย่างตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่มีรายงานตัวเลขสำคัญๆ ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวต่อทองคำมากนัก ประกอบกับประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนก็ยังคงมีแรงหนุนแต่ยังไม่มากพอให้ทองคำดีดตัวขึ้นได้มาก

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา(ศุกร์ 23) พบว่าทองคำตลาดนิวยอร์ค(COMEX) ปิดตลาดปรับลดลง 3.3 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ในเดือนเมษายนที่ออกมาดีเกินคาดและส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และก่อนหน้ารายงานดังกล่าวนี้ยังพบการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งได้ทำให้ถูกลดความน่าสนใจลง

โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผย ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนเมษายน พุ่งสูงขึ้น 6.4% และทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน ที่ระดับ 433,000 ยูนิต และ

ทองปรับขึ้น จากเศรษฐกิจที่ผสมผสานของสหรัฐ บวกแรงหนุนสถานการณ์การเมืองในยูเครนและไทย ในประเทศบาทอ่อนหนุนทอง

ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงผันผวนตามข่าวและรายงานตัวเลขเศรษฐกิจทั้งสหรัฐและจีน และมาตราการผ่อนคลายการนำเข้าทองคำจากอินเดีย รวมถึงสถานการณ์การเมืองในยูเครนและประเทศไทย โดยภาพรวมทองคำมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากปัจจัยที่มีเข้ามาเป็นบวกต่อทองคำมากกว่า แนวโน้มคาดว่าทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวผันผวนต่อไปในทิศทางขาขึ้น

ทองคำปรับตัวขึ้นหลังสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรอบสัปดาห์ ที่ปรับตัวขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 310,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะผันผวน อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นราคาทองได้อ่อนตัวลงหลังมีรายงานข้อมูลการผลิตขั้นต้น(PMI) เดือนพฤษภาคม ขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 56.2 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ในขณะที่ ปัจจัยหนุนราคาทองยังคงมีจากปัจจัยเสี่ยงในยูเครนซึ่งมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ยูเครนและกลุ่มกบฏที่สนับสนุนรัสเซีย รวมถึงข่าวการเกิดปฏิวัติ

ทองร่วงจากหุ้นสหรัฐพุ่งดึงดูดกว่า หลังรายงานประชุมเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ภาพรวมยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อ ในประเทศจับตาเงินบาทผันผวน

ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโดยรวมแล้วยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ถึงแม้ว่าระหว่างวันจะพบการเคลื่่อนไหวขึ้นลงผันผวน แต่ก็ยังไม่หลุดกรอบแนวรับแนวต้านสำคัญ คาดตลาดยังรอปัจจัยใหม่ๆ ชี้นำการเคลื่อนไหว ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมามีการรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดออกมา ซึ่งส่งผลกดดันต่อทองคำ

เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทย สหรัฐเปิดเผยรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ครั้งล่าสุด ซึ่งได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้ยืนยันเจตนารมณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟดคนก่อนที่ต้องการจะรักษาเสถียรภาพทางการเงินและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทองคำฉุดสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก(COMEX) ร่วงลง 6.5 ดอลลาร์ และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐหลังจากดัชนี