ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วง!! หลุด $1,200 หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด ทองในประเทศทั้งสัปดาห์ขึ้น 450

ราคาทองคำร่วงลงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากได้รับแรงกดดัน จากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2555

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงหลุดระดับสำคัญ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งหลังจากที่เคลื่อนไหวเหนือระดับดังกล่าวตลอดสัปดาห์นี้ โดยเป็นผลมาจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจำเดือนพฤศจกายนพบว่า เพิ่มขึ้น 321,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 230,000 ราย ส่วนอัตราว่างานเดือนเดียวกันยังคงทรงตัวอยู่ที่ 5.8% และเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ส่วนภาพรวมราคาทองคำทั้งสัปดาห์นี้(1-5 ธ.ค.) พบว่าแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,142-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยกดดันต่อทองคำมาจากการร่วงของ

ทองร่วง!! หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า $42 จากดอลลาร์แข็ง ตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐและประชุมอีซีบี ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนทองขึ้น 50

ราคาทองคำกลับร่วงลงหลังจากพุ่งขึ้นปริมาณมากก่อนหน้า เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงลง นอกจากนี้นักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

ทองคำกลับมาปรับตัวลดลง หลังจากที่พุ่งขึ้นปริมาณมากกว่า 42 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 3.6% ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ที่ระดับ 1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องมาจากการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ราคาทองปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ และนอกจากนี้ นักลงทุนยังแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น

ทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันจากปัจจัยพื้นฐานจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมีความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ

ทองร่วงต่อเนื่อง จากดอลลาร์แข็งหลังโอเปคคงอัตราผลิตน้ำมันและสวิสฯ ไม่เพิ่มทองคำสำรอง ในประเทศบาทอ่อนทองลง 250

ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะวันศุกร์ที่ผ่านมาร่วงลงกว่า 22 ดอลลาร์ หลังจากได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ และสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ผลการลงประชามติของสวิตเซอร์แลนด์ในประเด็นการถือครองทองคำสำรองของธนาคารกลางสวิสระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ปฏิเสธข้อเสนอในการเพิ่มทองคำสำรองของธนาคารกลาง ซึ่งส่งผลให้ทองคำร่วงลงต่อเนื่องอีกกว่า 2%

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากนักลงทุนประเมินว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ที่ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงถึง 7.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิต

ทองลง! หลังโอเปคคงกำลังการผลิตน้ำมันตามเดิม วันนี้ตลาดสหรัฐเปิดครึ่งวัน ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนทองลง 100

เมื่อคืนที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากได้รับแรงกดดัน จากผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปค) ซึ่งในที่ประชุมมีมติคงกำลังการผลิตในระดับปัจจุบันต่อไป อย่างไรก็ตามคาดว่าในวันนี้ทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อ เนื่องจากตลาดทองคำของสหรัฐปิดทำการเมื่อวานนี้ และจะกลับมาเปิดตลาดในวันนี้เพียงครึ่งวันเนื่องจากเป็นวัน Black Friday โดยคาดว่าการซื้อขายคงจะเบาบางเนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุน

ผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปค) เมื่อวานนี้ นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ได้เปิดเผยว่าที่ประชุมมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งก็ตรงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และภายหลังจากการแถลงมติที่ประชุมของประเทศสมาชิกโอเปคสิ้นสุดลง พบว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนร่วงหลุดระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 หรือในรอบ 4 ปีกว่า และได้ส่งผลกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากโดยปกติแล้วน้ำมันและทองคำจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน

ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบต่ำกว่า $1,200 โดยผันผวนตามเศรษฐกิจสหรัฐ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งเล็กน้อย ทองคงที่

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบและกลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีความผันผวนเล็กน้อยตามรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาทั้งดีและไม่ดี ผ่านการอ่อนค่าสลับแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำอ่อนตัวลง ภายหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ขยายตัว 3.9% ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2557 ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 3.5% และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น จึงทำให้ความต้องการทองคำ ซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยนั้นลดลง

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ทองคำกลับดีดตัวขึ้นขานรับสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน ลดลงแตะที่ระดับ 88.7 จากระดับ 94.1 ในเดือนก่อนหน้า และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะ

ทองคำยังได้แรงหนุนระยะสั้น ทางเทคนิคมีโอกาสปรับขึ้นต่อ ในประเทศเช้านี้ทองคงที่บาทแข็งเล็กน้อย

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสามารถขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังมีรายงานข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของจีนและคำแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปถึงความพยายามในการออกมาตรการสกัดภาวะเงินฝืด

ทองคำดีดตัวขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางจีนสร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยการประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2555 ซึ่งถือเป็นความพยายามล่าสุดของทางการจีนในการเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังจากที่ได้มีการอัดฉีดสภาพคล่อง และลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์แบบกำหนดเป้าหมาย

โดยธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% ทั้งนี้