ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง43,050.0043,150.00
ทองรูปพรรณ42,281.2443,650.00
วันนี้ 050
06 มกราคม 2568เวลา 16:06 น.(ครั้งที่ 9)

ข่าววิเคราะห์ทอง


ทองลงต่อเนื่อง จากปัจจัยทางเทคนิคและเศรษฐกิจสหรัฐกดดัน ในประเทศเช้านี้คงที่จากเมื่อวาน บาทอ่อนช่วยหนุน


แนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำปรับลดลงต่อเนื่อง จากรายงานสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐที่ค่อนข้างสดใส ประกอบกับทองคำถูกกดดันจากปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งภาพรวมของราคาทองคำระยะนี้ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบในทิศทางขาลง เนื่องมาจากปลายสัปดาห์ที่แล้วตลาดทองคำสำคัญๆ ทั่วโลกหยุดทำการเนื่องในเทศกาล อีสเตอร์(Good Friday)

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ราคาทองคำเคลื่อนไหวสูงกว่าค่าเฉลี่ยรอบ 200 วัน ที่ระดับ 1,299 ดอลลาร์ นั้นได้กระตุ้นให้เกิดแรงขายทางเทคนิค และคาดว่าแนวรับเส้นต่อไปของสัญญาทองคำจะตั้งรออยู่ที่ระดับ 1,277 ดอลลาร์

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยธนาคารกลางสหรัฐ สาขาชิคาโกเปิดเผย ตัวเลขดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่ถูกจับตาใกล้ชิด ปรับตัวขึ้นแตะ 0.14 ในเดือน

ทองร่วงต่อจากปัจจัยทางเทคนิคหลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,300$ สัปดาห์นี้ตามเศรษฐกิจสหรัฐและจีน ในประเทศเช้านี้ลง 150 บาท


แนวโน้มทิศทาง ราคาทองเช้านี้ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหลังจากหลุดแนวรับสำคัญ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วก็ไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับเดิมได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยังถูกกดดันจนราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มระยะสั้น กลาง คาดว่าทองคำจะถูกกดดันต่อไป เนื่องจากปัจจัยที่เข้ามาช่วงนี้ ส่งสัญญานในเชิงลบต่อทองคำ

นักวิเคราะห์คาดว่าสัปดาห์นี้(21-25 เม.ย.) ทองคำจะยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากขณะนี้ราคาตลาดปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และคาดว่าประเด็นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องติดตามและคาดว่าจะส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้นลงผันผวนได้ ส่วนประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครนนั้นขณะนี้ยังอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้ทำให้ขาดน้ำหนักในเชิงบวกต่อทองคำ แต่คาดว่าสถานการณ์ในยูเครนอาจมีเปลี่ยนแปลงในเวลาอันรวดเร็วได้ ซึ่งหาก

สัปดาห์นี้ภาพรวมทองคำเป็นขาลงอีกครั้ง เศรษฐกิจสหรัฐดีเกินคาดกดดัน ในประเทศทั้งสัปดาห์ลง 400 บาท


แนวโน้มราคาทองสัปดาห์นี้ภาพรวมราคาทองคำทั้งสัปดาห์นี้(14-18 เม.ย.) วันจันทร์ต้นสัปดาห์ราคาดีดตัวขึ้นสูง จากแรงหนุนความต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน และหลังจากนั้นเป็นต้นมาถึงปลายสัปดาห์ราคาทองคำถูกดันด้วยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด บวกกับประเด็นความตึงเครียดในยูเครนก็เริ่มผ่อนคลายลงตามลำดับ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะนี้กลับมามีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาลงอีกครั้ง

โดยราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในวันจันทร์ จากสถานการณ์ความไม่สงบของยูเครน และมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทองคำเป็นที่ต้องการมากขึ้นในฐาะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ขณะที่รายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่มีออกมาช่วงกลางสัปดาห์ถึงปลายสัปดาห์ต่างบ่งบอกอย่างมีนัยยะถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด ส่งผลให้สกุล

ทองปิดร่วง วันนี้คาดทรงตัวนิ่งเนื่องจากทองคำตลาดโลกปิดทำการวัน Good Friday ในประเทศเช้านี้ลง 50 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องจากวันก่อน และในคืนวันนี้ตามเวลาไทยหรือวันศุกร์ที่ 18 เมษายน ตลาดการเงินตลาดทุนของสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าหรือวัน Good Friday ซึ่งส่งผลการซื้อขายในทุกตลาดค่อนข้างเงียบเหงาเพราะนักลงทุนต่างชะลอการลงทุนไว้ ส่วนเมื่อคืนนี้ก่อนตลาดปิดทำการในวันนี้ ทองคำตลาดโลกปิดร่วงลงอีก 9.6 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,293.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด รวมถึงจำนวนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยง หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 เม.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 2,000 ราย และเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ

ทองเคลื่อนไหวในกรอบ ระยะสั้นกลับมาเป็นขาลง จับตาสถานการณ์ยูเครนอาจกลับเป็นแรงหนุนได้ ในประเทศบาทยังแข็ง


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบมากขึ้น หลังจากเมื่อวันอังคาร(15 เม.ย.) ปรับตัวลดลงหนักกว่า 2% โดยประเด็นที่ทองคำได้รับแรงกดดันยังมาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาค่อนข้างดี บวกกับความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ กองทุน SPDR Gold Trust ได้เทขายทองคำออกมาอีก 8.39 ตัน และเหลือการถือครองทองคำเพียง 798.43 ตัน

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจนทำให้ทองคำตลาดนิวยอร์กกลับมาปิดบวกได้อีกครั้งในเมื่อคืนที่ผ่านมา จากสถานการณ์ความไม่สงบของยูเครนหลังกลุ่มผู้สนับสนุนรัสเซียบุกยึดอาคารหน่วยงานรัฐบาลในดินแดนของยูเครน เพื่อเรียกร้องให้มีการทำประชามติว่าด้วยการปกครองตนเองและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นกับรัสเซีย จนหลายฝ่ายกังวลต่อวิกฤติความขัดแย้งในยูเครนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ และนอกจากประเด็นนี้แล้ว ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากรายงานยอด

ทองร่วง!! จากแรงเทขายและเศรษฐกิจสหรัฐกดกัน หลังจากเมื่อวานปรับขึ้นมาก ในประเทศหลังสงกรานต์วันนี้ลง 300 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปิดตลาดปรับตัวลงปริมาณมากเมื่อคืนที่ผ่านมา(15 เม.ย.) กว่า 2% และถือเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 16 สัปดาห์ คาดจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจาความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ทวีความรุนแรงได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย

อีกทั้งยังพบการการร่วงลงของทองคำยังมีปัจจัยจากรายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ จากรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 0.1% และเพิ่มกระแสคาดการณ์ที่ว่า การปรับตัวขึ้นของราคาผู้บริโภคสหรัฐ จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐมีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินหรือ QE ต่อไป

โดยราคาทองคำในตลาดโคเม็กซ์ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ร่วงลง 27.20 ดอลลาร์หรือ 2.05% ที่ระดับ 1,300.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถือเป็นการลดลงมากที่สุด

“ศูนย์วิจัยทองคำ” เผยเชื่อมั่นทองคำเมษาลด ปัจจัยยูเครนและนโยบายเฟดกระทบระยะยาว เชื่อหลังสงกรานต์ไม่ลงหนักเหมือนปีที่แล้ว


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนเมษายน 2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำลดลงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 48.01 จุด ลดลงจากดัชนีในเดือนมีนาคม 5.72 จุด หรือลดลง 10.65% จากระดับ 53.73 จุด สะท้อนทัศนคติในเชิงลบเล็กน้อยต่อราคาทองคำเดือนเมษายน โดยกลุ่มผู้ลงทุนคาดราคาอ่อนตัว สะท้อนผ่านความเชื่อมั่นที่ลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งสวนทางกับกลุ่มผู้ค้าที่มีค่าดัชนีที่ระดับ 56.39 จุด ที่สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำระหว่างเดือนเมษายน

โดยปัจจัยที่เชื่อว่าจะกระทบราคาทองคำในประเทศในช่วงหนึ่งเดือนนั้น กลุ่มผู้ลงทุนให้น้ำหนักกับประเด็นกับแนวนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ถึง 43.10% หลังมีการชะลอมาตรการ QE และสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย หลังการประชุมในช่วงกลางเดือนมีนาคม เฟดได้ส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะสร้างความวิตกต่อตลาดการลงทุนว่าเฟดอาจจะเริ่มหันมาเข้มงวดมาตรการทางการเงินมากขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวจะเป็นปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำ เช่นเดียวกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมกดดันราคาทองคำที่จะเคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นค่าเงินบาทที่ให้น้ำหนัก 39.13% โดยเชื่อว่าระหว่างเดือนเมษายนค่าเงินบาทจะยังผันผวนในกรอบกว้าง จากการได้รับผลกระทบทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ อย่างปัจจัยการเมืองในประเทศ การปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เป็นต้น ส่วนประเด็นข้อพิพาทยูเครนและรัสเซียที่ผลักดันราคาทองคำในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีการให้น้ำหนัก 38.56% โดยผู้ลงทุนมองว่าประเด็นดังกล่าวจะยังกระทบต่อราคาทองคำในระยะต่อไป

ขณะที่มองว่าราคาทองคำในตลาดโลกกรอบสูงสุดน่าจะอยู่ระหว่าง 1,340-1,420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ที่ 1,200-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่

ทองพุ่งต่อเนื่อง ขานรับข่าวที่ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ในประเทศบาทแข็งขึ้นได้น้อย เช้านี้ขึ้น 50 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากแรงหนุนหลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18-19 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ช่วยหนุนทองคำทะยานขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดปรับขึ้นกว่า 1.12% ที่ระดับ 1,320.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้บรรดานักลงทุนในตลาดทองคำและตลาดหุ้นต่างได้รับแรงกดดันอย่างมาก จากถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่กล่าวหลังการประชุมในเดือนมีนาคมว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่ยุติโครงการซื้อพันธบัตรไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ไว้

นอกจากนี้การปรับขึ้นของทองคำในระยะนี้พบว่า มีสาเหตุมาจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 260 จุดเนื่องจากนัก

ทองดีดตัวขึ้น หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าขานรับรายงานเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดกังวล ในประเทศเช้านี้ขึ้น 50 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นหลังเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ คาดนักลงทุนต่างชะลอการลงทุนเพื่อรอการเปิดเผยข้อมูลผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุด ซึ่งในรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า ควรหาแนวทางที่จะฉุดอัตราว่างงานให้ปรับตัวลงสู่ระดับเป้าหมาย ก่อนที่จะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจากรายงานดังกล่าวนี้ส่งผลบวกเป็นอย่างมากแก่ตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งดัชนีดาวโจนส์ขานรับรายงานฉบับนี้ พุ่งทะยานขึ้นกว่า 180 จุด ส่งผลให้ระยะแรกเกิดการเทขายทองคำออกมาเพื่อโยกเงินเข้าสู่ตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ระยะสั้นทองคำถูกกดดันจากตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้น จากนั้นทองคำก็ค่อยๆ ดีดตัวขึ้นจากปัจจัยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่ารับกับรายงานดังกล่าวข้างต้นและเป็นการอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์ หนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น นักวิเคราะห์คาดว่า ระยะสั้นนี้ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่อาจจะปรับขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อรอปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ต่อไป

ทองพุ่งเหตุปัจจัยดอลลาร์อ่อนค่าและความตึงเครียดในยูเครน ในประเทศเช้านี้บาทแข็งกดทองลง 50 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงบวกกับสถานการณ์ในยูเครนที่กลับมาตึงเครียดมากขึ้น และเป็นสัญญานบวกทำให้ราคาทองคำในช่วงนี้กลับมามีแนวโน้มฟื้นตัว

ราคาทองคำกลับมาฟื้นตัวเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง โดยได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง เนื่องมาจากประเด็นตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่ค่อยสดใส โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์นั้น พบว่าขยายตัวขึ้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ในขณะเดียวกันทองคำยังได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนที่เริ่มกลับมาตึงเครียดมากขึ้น หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนรัสเซียได้เข้ายึดอาคารที่ทำการหลายแห่งของรัฐบาลยูเครน และเรียกร้องให้รัฐบาลกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึงเรียก

ทองเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,290–1,310$ คาดยังรอปัจจัยใหม่ ในประเทศเช้านี้คงที่จากเมื่อวาน


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,290–1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากที่เมื่อวานราคาปรับลดลงจากแรงขายทำกำไร หลังเมื่อวันศุกร์ราคาทองดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดร่วงลง 5.2 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,298.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทำกำไร หลังจากทองคำพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับเมื่อวันศุกร์ทองคำพุ่งขึ้นจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐต่ำกว่าคาด

และนอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า กองทุน ETF ทองคำได้ลดการถือครองทองคำลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเมื่อวัน

ทองฟื้นตัวเหนือ 1,300$ ได้เมื่อวันศุกร์ วันนี้คาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ในประเทศเช้านี้เปิดตลาดคงที่จากวันเสาร์


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ในขณะที่ภาพรวมของราคาทองคำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3และทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ทั้งสัปดาห์ทองคำกลับสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 0.7%

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำอย่างตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงผันผวนโดยก่อนประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้กดดันราคาทองผ่านการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ อีกทั้งจากหลายๆปัจจัยทั้งในระยะสั้นอย่างสถานการณ์ในคาบมุทรไคเมียก็ผ่อนคลายลง รวมถึงผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปก็ยังไม่มีมาตราการใดๆออกมา ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงถูกลดความน่าสนใจลง

และประเด็นหลักที่ตลาดเฝ้าจับตาอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐประจำเดือนมีนาคมได้ประกาศออกมาเมื่อคืนวันศุกร์ พบว่าตัวเลขขยายตัวน้อยกว่า