ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองเริ่มปรับตัวลงจากเศรษฐกิจสหรัฐสดใสผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ในประเทศเช้านี้ลง 150 บาท

ราคาทองคำเริ่มอ่อนตัวลงโดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อันเนื่องมาจากการประกาศตัวเลขยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเดือนพฤศจิกายนออกมาดีเกินคาด ซึ่งลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่การส่งออกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่ง

และจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งดังกล่าวข้างต้นได้สร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำในอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนมองว่าภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งนี้จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลงอีก สอดรับความเห็นของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาซานฟรานซิสโก ที่กล่าวว่า เฟดอาจจะลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกในปี 2557 ตราบใดที่เศรษฐกิจขยายตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้

ซึ่งจากถ้อยแถลงดังกล่าวนี้ทำให้นักลงทุนต่างเฝ้าจับตาดูรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ครั้้งล่าสุด

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ในประเทศคึกคักสวนทางตลาดหุ้น หลังปีใหม่ขึ้นรวมแล้ว 650 บาทจากบาทอ่อนหนุน

ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากปีใหม่ และเริ่มต้นสัปดาห์นี้ทุกตลาดกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะฉนั้นคาดว่าแนวโน้มและปริมาณการซื้อขายน่าจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปรกติ โดยภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเปิดซื้อขายสัปดาห์ก่อนหลังปีใหม่ ซึ่งพบว่ามีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามาหลังจากปรับตัวลดลงมากช่วงปลายธันวาคมปีที่แล้ว ประกอบกับมีเม็ดเงินได้ถูกโยกย้ายออกจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยงบางส่วน หลังจากที่ตลาดหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นช่วงปลายปี

การปรับขึ้นของราคาทองคำในช่วงนี้ยังอยู่ที่แรงซื้อเก็งกำไรและแรงช้อนซื้อจากนักลงทุนหลังจากพวกเขามองว่าราคาทองคำปรับตัวลงมามากและค่อนข้างถูก จึงเป็นโอกาสที่เหมาะในการสะสมทองคำ หลังจากที่ปลายปีที่ผ่านมากราคาทองคำได้ร่วงลง 28% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่

ทองดีดตัวขึ้นระยะสั้นจากแรงซื้อเก็งกำไร ภาพรวมยังเป็นเชิงลบ ในประเทศบาทอ่อน 33.02 รอบ 4 ปี หนุนทองขึ้นอีก 200

เมื่อวานนี้ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้หลังปลายปีที่ผ่านมาปรับตัวลงอย่างหนัก โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,220-1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นวันแรกของการซื้อขายปี 2557 อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของทองคำยังคงเป็นเชิงลบ จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจมีการปรับลดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกต่อไปในอนาคต ส่งผลทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง

โดยทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดวันแรกของการซื้อขายปี 2557 เมื่อคืนที่ผ่านมา(2 ม.ค.) พบว่า ปรับตัวขึ้น 22.90 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,225.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักในปีที่ผ่านมาถึง 28% โดยเฉพาะเดือนธันวาคมลดลงทั้งสิ้น 3.8% และคิดเฉพาะไตรมาสสุดท้าย ไตรมาสที่ 4 ร่วงลงไป 9% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงรายปีครั้งแรกในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา

ทั้งสัปดาห์ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบและการซื้อขายที่เบาบาง จากเทศกาลวันหยุดต่อเนื่อง ในประเทศเงินบาทอ่อนหนุนทองได้เยอะ

ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(23-27 ธ.ค.)แกว่งตัวในกรอบแคบ และมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีทั้งวันหยุดคริสต์มาสและต่อเนื่องปีใหม่ ทำให้เทรดเดอร์และนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างชะลอการลงทุน และภาพรวมทั้งสัปดาห์นี้พบว่าราทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และสามารถยืนเหนือแนวรับจิตวิทยาที่บริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่ทองคำร่วงลงอย่างหนักหลุดแนวรับจิตวิทยาดังกล่าว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจประกาศปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินลง ซึ่งจะมีผลเดือนมกราคมปีหน้า

ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าราคาทองปรับตัวผันผวนในกรอบแคบ และในปัจจุบันนี้ ความต้องการทองคำของนักลงทุนอยู่ที่ระดับต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจของโลกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ในตลาดไม่ได้มีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มของราคาทองในปี 2557 ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ ก็พร้อมที่

ทองคำยังทรงตัวในกรอบ จากเริ่มเข้าสู่เทศกาลวันหยุดปลายปี ในประเทศบาทอ่อนเช้านี้บวกเพิ่มอีก 50 บาท

เมื่อวานนี้ราคาทองคำทรงตัวในกรอบแคบเนื่องจากส่วนใหญ่ตลาดเงินของสหรัฐ ยุโรปปิดทำการในวันคริสต์มาส ประกอบกับการก้าวเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดต่างๆ เริ่มจากเทศกาลคริสมาสต์ต่อเนื่องเทศกาลปีใหม่ในสัปดาห์หน้า ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างชะลอการลงทุนเอาไว้ ซึ่งโดยภาพรวมทำให้มีการซื้อขายในปริมาณค่อนข้างเบาบางในช่วงนี้

ประเด็นหลักที่ยังคงกดดันราคาทองคำอยู่ในช่วงนี้ยังอยู่ที่ การประกาศปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ผ่านการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะเป็นข้อมูล ให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดมาตราการทางการเงินนี้ได้อีกในอนาคต หากตัวเลขรายงานออกมาชี้ชัดว่าเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนทองคำในช่วงนี้ลดลง โดยนักลงทุนพุ่งเป้าการลงทุนกลับไปอยู่ที่ตลาดหุ้นเป็นส่วนใหญ่หลังตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นพากันทำสถิตินิวไฮใหม่อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าราคาทองจะถูกกดดันหนักจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ก็จะมีแรงซื้อเก็งกำไรจากนักลงทุนกลับเข้ามาหลังจากราคาทองปรับตัวลงมามากก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ราคาทองสามารถดีดตัวขึ้นได้ในระยะสั้นๆ แต่ภาพรวมราคาทองยังอยู่ในช่วงขาลงต่อไป

ทองคำตลาดโลกเคลื่อนไหวในกรอบแคบในทิศทางขาลง ในประเทศทองขึ้นสวนทางจากเงินบาทอ่อน 32.81 หนุน

ภาพรวมราคาทองคำเมื่อวานนี้ต่อเนื่องเช้าวันนี้ยังคงเคลือนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากอยู่ใกล้ช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ต่อเนื่องปีใหม่ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างเริ่มชะลอการลงทุน จึงพบปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ส่วนเมื่อวานนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดตลาดพบว่าปรับตัวลดลง 6.70 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,197 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหลุดแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวโน้มน่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุด 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในรอบ 6 เดือนอีกครั้ง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่รายงานออกมาล่าสุดแข็งแกร่ง กดดันให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง

ด้านนักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจนเนอราล(ซอคเจน) คาดการณ์ว่า สถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำกำลังจะสิ้นสุดลง นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ลงในการประชุมที่ผ่านมา

ประเด็นหลักที่เป็นปัจจัยลบกดดันราคาทองคำยังอยู่ที่การประกาศปรับลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงินลงของธนาคารกลางสหรัฐ หลังจากแนวโน้มเศรษฐกิจ