ราคาทองคําวันนี้

ทองฟื้นตัวจากตัวเลขแรงงานสหรัฐต่ำกว่าเป้าหมาย เช้านี้ในประเทศบาทแข็งทำทองลง 50

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับขึ้นได้เพียงเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง เนื่องมาจากการที่สกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

สัปดาห์ที่ผ่านมาต้นสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์ทองคำถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปลายสัปดาห์ทองคำดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้สร้างตำแหน่งงานเพิ่มน้อยที่สุดในปีนี้ ในเดือนสิงหาคม โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง ซึ่งอัตราการขยายตัวของตำแหน่งงานในเดือนสิงหาคมนี้ ถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดของปีนี้ นับเป็นการสะดุดลงอีกครั้งของตลาดแรงงานหลังจากที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 6 เดือนในช่วงก่อนหน้านี้

และจากข้อมูลดังกล่าวส่งสัญญาณที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไป

ทองปรับขึ้นเล็กน้อย หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในประเทศทั้งสัปดาห์ลง 200 เช้าวันเสาร์ขึ้น 50

ภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(1-5 ก.ย.) พบว่าร่วงลงทั้งสิ้น 1.56% จากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินยูโร แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเกินคาดหมายรวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่งสัญญานแข็งแกร่งต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าตามสถิติแล้ว เดือนกันยายนของทุกปีจะเป็นเดือนที่ทองคำปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด นอกจากนี้ ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในประเทศอินเดียจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาทองคำเพิ่มขึ้นด้วย

ขณะที่่เมื่อคืนที่่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังได้รับแรงหนุนจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราว่างงาน ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจภาคครัวเรือน ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 6.1% จาก 6.2% ในเดือนกรกฏาคม โดยอัตราการขยายตัวของตำแหน่งงานในเดือนสิงหาคมถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดของปีนี้ นับเป็นการสะดุดลงอีกครั้งของตลาด

ทองร่วงจากดอลลาร์แข็งค่ากดดัน หลังอีซีบีปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลในประเทศบาทอ่อนเช้านี้ทองลงแค่ 100

ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ที่มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหนือความคาดหมาย พร้อมกันนี้ยังมีการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ และมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต

เมื่อคืนที่ผ่านมา การประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) ลงสู่ระดับ 0.05% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) ลงสู่ระดับ -0.2%

ทั้งนี้อีซีบี ให้เหตุผลว่าแนวโน้มเงินเฟ้อโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่อ่อนแรงลง ตลอดจนการเคลื่อนไหวของสินเชื่อและตลาดเงินที่ยังคงซบเซา เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางยุโรปจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้ อีซีบียังได้ระบุว่า คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรปมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะนำเครื่องมือทางการเงิน

ทองฟื้นตัวขึ้น จากแรงซื้อหลังร่วงหนักในรอบ 11 สัปดาห์ ในประเทศเช้านี้ขึ้น 100 วันนี้ตามประชุมอีซีบี

ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้นในกรอบจำกัด จากแรงซื้อของนักลงทุนเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล หลังจากเมื่อวานนี้ทองคำร่วงลงหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 11 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างยังไม่มั่นใจในทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ส่วนในวันนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) และการเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น ท่ามกลางความไม่มั่นใจของนักลงทุนในทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทอง ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียจะบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการสู้รบในยูเครนภายในเวลา 1 สัปดาห์ แต่ยูเครนได้ออกมาปฏิเสธแถลงการณ์ดังกล่าว

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ออกมาไม่ค่อยดี โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐเดือนกรกฏาคม ปรับตัวขึ้น 10.5% แต่แนวกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 11.0%

ทองคำร่วงหนักสุดรอบ 2 เดือนกว่า จากดอลลาร์แข็งตอบรับเศรษฐกิฐสหรัฐแข็งแกร่ง ในประเทศเช้านี้ลง 100 จากวานนี้ลง 100

ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ตอบรับรายงานตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐที่แข็งแกร่ง และได้บดบังความต้องการของนักลงทุนในการเข้าซื้อทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกันจากการที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงก็เป็นอีกหนึ่งแรงฉุดให้ทองคำร่วงลง จากกระแสคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) อาจตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้

สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ตอบรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาและส่งผลกดดันต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยให้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนนับตั้งแต่วันอังคารที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา

โดยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา จากผลการสำรวจของมาร์กิตระบุว่า กิจกรรมการผลิตของสหรัฐในเดือนสิงหาคม ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 4 ปีนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ แตะที่ 57.9 ในเดือน

กราฟทองคำโลกเรียลไทม์เช้านี้ดิ่งลง หลังเมื่อวานทรงตัวจากตลาดทองสหรัฐปิด ในประเทศบาทอ่อนช่วยหนุนไว้

ราคาทองคำต้นเดือนกันยายน เคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบ โดยนักลงทุนต่างชะลอการลงทุนตลาดเงินตลาดทุนของสหรัฐ ปิดทำการเนื่องในวันวันแรงงาน ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนส่อเค้าตึงเครียดขั้นสูงสุด..

เมื่อวานนี้ตลาดเงินตลาดทุนของสหรัฐปิดทำการในวันแรงงานของสหรัฐ จึงพบการเคลื่อนไหวของราคาทองทรงตัวในกรอบแคบ

สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน ส่อเค้าวิกฤติยากเกินควบคุม หลังยูเครนและนาโต้ กล่าวหาว่า รัสเซียได้ส่งทหารและยุทโธปกรณ์ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฏหมายเข้ามายังยูเครน ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากยูเครนขอเข้าเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ต่อองค์การสนธิสัญญาป้องกัน แอตแลนติกเหนือ(นาโต้) ซึ่งถือเป็นการขอความช่วยเหลือทางการทหารจากชาติตะวันตอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนได้ทำการโจมตีเรือลาดตระเวนลำหนึ่งของรัฐบาลยูเครน จนทำให้ลูกเรือ 7 รายได้รับบาดเจ็บ และ สูญหาย 2 ราย ทั้งนี้ความกังวลต่อวิกฤติยูเครนที่มากขึ้นส่งผลให้มีแรงซื้อทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวลงในฐานะสินทรัพย์