ราคาทองคําวันนี้

ทองคำร่วงต่อเนื่อง กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วและการดิ่งลงของน้ำมัน ในประเทศเช้านี้ลงอีก 200 วานนี้ลง 100

ราคาทองร่วงลงต่อเนื่อง และปรับลงแล้วกว่า 2% โดยทำจุดต่ำสุดรอบเกือบสัปดาห์ที่ระดับ 1,191 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้และวันพรุ่งนี้ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังปรับตัวดีขึ้น

โดยนักวิเคราะห์คาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) จะหารือในเรื่องจังหวะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคมนี้ หลังจากที่ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0% มาตั้งแต่ปี 2551 ทั้งนี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ทองคำขาดความน่าสนใจ เนื่องจากให้ผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาเท่านั้น

ขณะที่ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะเปลี่ยนถ้อยคำในรายงานการประชุมและส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้

ทองลดลง 3 วันแต่ปริมาณไม่มาก สัปดาห์หน้าแนะติดตามประชุมเฟดคาดส่งผลต่อทองคำให้ผันผวน

ราคาทองคำตลาดโลกปิดตลาดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะขายทอง ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งขายทำกำไร ภายหลังราคาปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ จากข้อมูลที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในทองคำลดลงด้วย

ส่วนภาพรวมราคาทองในสัปดาห์นี้(8-12 ธ.ค.) พบว่าทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เมื่อวันอังคารต้นสัปดาห์ ทำให้ช่วงปลายสัปดาห์พบแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ประกอบกับจากการที่ใกล้ถึงช่วงเวลาสิ้นปี นักลงทุนบางรายเริ่มลดกิจกรรมการซื้อขายทองคำก่อนช่วงเทศกาลวันหยุด นอกจากนี้รายงานเศรษฐกิจสหรัฐช่วงปลายสัปดาห์ อย่าง ข้อมูลยอดค้าปลีกและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่สดใส เป็นหลักฐานใหม่ที่แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว ส่งผลกดดันต่อทองคำให้ปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัด

ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาทองปรับตัวลง มาจากการร่วงลงของราคาน้ำมันตลาดโลก เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นได้

ทองลงเล็กน้อยทางเทคนิค หลังพุ่งแรงก่อนหน้า แนวโน้มยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อน ในประเทศเช้านี้บาทแข็งทองลง 50

ราคาทองคำปรับตัวลดลงแต่เพียงในกรอบจำกัดหลังจากทะยานขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมากว่า 3% เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม ทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะได้ยังรับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

ทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กซึ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก และรายงานที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของทองคำก็อยู่ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากเพราะตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่อ่อนแรงลงได้หนุนความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงหลังจากที่

ทองร่วง! หลังข้อมูลจ้างงานสหรัฐดีเกินคาด ระยะนี้ทองเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศบาทอ่อนแตะ 33 ทองคงที่!!

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากได้รับแรงกดจากเงินดอลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังสหรัฐรายงานข้อมูลตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดีเกินคาด ขณะที่การประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ช่วงกลางสัปดาห์ พบว่าอีซีบียังไม่มีการประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ส่งผลให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นและเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และส่งผลกดดันมายังราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงเนื่องจากทองคำซึ่งซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน พบว่าเพิ่มขึ้น 321,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2555 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย ส่วนอัตราว่างานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 5.8% ในเดือนดียวกัน

ทองร่วง!! หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า $42 จากดอลลาร์แข็ง ตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐและประชุมอีซีบี ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนทองขึ้น 50

ราคาทองคำกลับร่วงลงหลังจากพุ่งขึ้นปริมาณมากก่อนหน้า เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงลง นอกจากนี้นักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

ทองคำกลับมาปรับตัวลดลง หลังจากที่พุ่งขึ้นปริมาณมากกว่า 42 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 3.6% ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ที่ระดับ 1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องมาจากการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ราคาทองปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ และนอกจากนี้ นักลงทุนยังแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น

ทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันจากปัจจัยพื้นฐานจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมีความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ

ทองฟื้นขึ้นเหนือ $1,200 หลังดอลลาร์อ่อน พฤหัสฯ จับตารายงานประชุมเฟด ในประเทศบาทอ่อนช่วยหนุนทองขึ้นอีก 150

เมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นกลับมายืนเหนือระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน เนื่องมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนตลาด ซึ่งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์จะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและดึงดูดแรงซื้อสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ จึงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2558 และ จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2558 เนื่องจากสภาพคล่องและความต้องการทองคำทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยนักลงทุนต่างเฝ้าจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้ง