ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐยังเป็นปัจจัยบวกหนุน ในประเทศเงินบาทแข็งร่วมกดทองร่วง 100 บาท
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 51,200.00 | 51,300.00 |
ทองรูปพรรณ | 50,285.72 | 52,100.00 |
วันนี้ 150 | -50 | |
28 พฤษภาคม 2568 | เวลา 15:29 น. | (ครั้งที่ 11) |
ข่าวข่าวค่าเงิน
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเพราะได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกรอบเวลาในการบังคับใช้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังส่งผลเป็นแรงหนุนซื้อทองคำสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ภายหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลง อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกรอบเวลาในการบังคับใช้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ราคาทองคำเช้าวันจันทร์ยังเคลื่อนไหวใกล้เคียงเมื่อวันศุกร์ที่ราคาร่วงลงปริมาณมากกว่า 1% จากแรงเทขายอย่างมีนัย เนื่องจากก่อนหน้านี้ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐที่อาจล่าช้า ในประเทศเช้าวันจันทร์เงินบาทแข็งกดทองลดลง 50 บาท
ราคาทองคำโลกร่วงลงกว่า 1% เนื่องมาจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากราคาพุ่งขึ้นปริมาณมากก่อนหน้านี้จากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยความไม่แน่นอนในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ในประเทศประกาศราคาวันเสาร์ปรับลดลง 50 บาท
ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องมาจากความกังวลต่อความล่าช้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐ รวมถึงร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ในประเทศเงินบาทกลับแข็งค่ากดดันต่อทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงรวมถึงการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องมาจากความกังวลความล่าช้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจากเครื่องมือวิเคราะห์ล่าสุดพบว่ามีโอกาสเกิน 96% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย