ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง42,250.0042,350.00
ทองรูปพรรณ41,492.9242,850.00
วันนี้ -50-50
28 ธันวาคม 2567เวลา 09:05 น.(ครั้งที่ 1)

ข่าวข่าวราคาทองคำ


ราคาทองคำปี “2013” มีโอกาสพลิกผันสูง


โกลด์แมนแซคส์ คาด ราคาทองคำอาจพลิกผันในปีหน้า ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจากเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจะหักล้างปัจจัยบวกจากการขยายงบดุลเพิ่มของธนาคารกลางสหรัฐฯ

สำนักข่าวรายงานว่า โกลด์แมนแซคส์ ระบุว่า วัฏจักรราคาทองคำในปัจจุบันอาจมีการพลิกผันในปีหน้า ในขณะที่การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จะหักล้างปัจจัยบวกจากการขยายงบดุลเพิ่มเติบของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ โกลด์แมนแซคส์ ได้ปรับลดการคาดการณ์ราคาทองในช่วง 3, 6 และ 12 เดือนข้างหน้า ลงสู่ระดับ 1,825,1805 และ 1,800 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์ ตามลำดับ

สัปดาห์หน้าประชุมธนาคารกลางสหรัฐครั้งสุดท้ายของปีนี้


สัปดาห์นี้มีแรงเทขายทองคำอย่างต่อเนื่องจนทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับจิตวิทยาที่ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ทำให้เกิดเป็นสัญญาณขายในทางเทคนิคจนราคาปรับฐานลงต่ำสุดที่ 1,685 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำในสัปดาห์นี้กลับปรับตัวลงสวนทางกับค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากแรงเทขายจากกองทุน นอกจากนี้โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดประมาณการราคาทองปี 2013-2014 และระบุว่าวัฏจักรช่วงขาขึ้นของราคาทองในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในปีหน้า โกลด์แมน แซคส์ ประมาณการราคาทองในช่วง 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่ 1,825, 1,805 และ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ และคาดว่าราคาทองอาจอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปี 2014 ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเดือนพฤศจิกายนที่ประกาศในสัปดาห์นี้หลายตัวออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศของ ADP ดัชนี ISM ภาคการผลิต ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่

ทองเริ่มฟื้นหลังร่วงติดต่อกัน 2 วัน


ราคาทองคำ เริ่มฟื้นตัวหลังร่วงลง 2 วันติดต่อกัน หลังสหรัฐฯยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการแก้ไขปัญหา fiscal cliff ด้านนักวิเคราะห์ ให้แนวรับสำหรับเก็งกำไรอยู่ที่บริเวณ 1,680 และ 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์…

ราคาทองคำถูกกดดันจากการลดการประมาณการเป้าหมายราคาทองในอนาคตของบริษัท โกลด์ แมน แซคส์ ประกอบกับปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณว่าจะสามารถหาข้อยุติลงได้ จึงกดดันให้ราคาทองมีการปรับฐานลงในการซื้อขายระหว่างวัน อย่างไรก็ตามด้วยราคาทองที่ปรับตัวลงติดต่อกันหลายวัน จึงทำให้ปริมาณการปรับตัวลงมีค่อนข้างน้อยและเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาทองปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,680-1,685 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ฮั่วเซ่งเฮง คาดทองยังปรับตัวลดต่อ


ราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างแรงในการซื้อขายวันอังคาร โดยราคาไม่สามารถประคองตัวเหนือแนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ต่อออนซ์

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า ราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างแรงในการซื้อขายวันอังคาร โดยราคาไม่สามารถประคองตัวเหนือแนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ได้ กดดันให้เกิดเป็นสัญญาณขายในทางเทคนิคจนราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,690 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และยังคงมีแรงขายกลับออกมาหลังจากในระหว่างวันเริ่มมีการดีดตัวกลับ จนราคาทองปรับตัวลงต่อในการซื้อขายเมื่อวานนี้ โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,693.28 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลงจากระดับปิดของวันอังคาร 4.02 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,685 และ 1,706 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% วานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,800 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,700 บาท กองทุน SPDR ยังคงรายงานว่ามีการปรับเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้นจากวันจันทร์ 2.71 ตัน ทำสถิติถือทองมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,351.54 ตัน

ราคาทองคำ ทรงตัวรอติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ


ราคาทองคำทรงตัว เพื่อรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ด้านนักวิเคราะห์ให้แนวต้านของวัน อยู่ที่บริเวณ 1,725-1,730 ดอลลาร์ ต่อออนซ์…

ราคาทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงกลางวัน หลังจากปรับตัวลงค่อนข้างแรงในการซื้อขายวันศุกร์ ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรปที่ยังสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

โดยเมื่อวานนี้ที่ 1,715.29 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันศุกร์ 0.89 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,713 และ 1,721 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% วานนี้ ขายออกที่บาทละ 25,000 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,900 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,348.83 ตัน

สัปดาห์นี้ จับตาตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ มีผลต่อราคาทอง


ราคาทองยังปรับตัวในกรอบแคบๆ หลังนักลงทุน ยังไม่มั่นใจเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ด้านนักวิเคราะห์ แนะ สัปดาห์นี้จับตา ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ…

มีแรงขายกลับออกมาอีกครั้งในการซื้อขายช่วงค่ำของวันศุกร์ จนราคาทองกลับปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวที่แนวรับบริเวณ 1,700-1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง โดยนักลงทุนยังไม่มั่นใจเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ หลังจากสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน ยังไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับปัญหานี้ได้

โดยราคาทองเมื่อวันศุกร์ปิดตลาดที่ 1,714.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลงจากระดับปิดของวันพฤหัส 10.77 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,713 และ 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 25,000 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,900 บาท กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ถือครองทองคำแท่งขนาดใหญ่รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีการปรับเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้น 1.81 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,348.83 ตัน

สัปดาห์หน้าติดตามตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐ คาดทองมีแนวโน้มปรับขึ้นได้


สัปดาห์นี้ประเด็นที่กระทบต่อตลาดทองคำเป็นการประชุมกลุ่มอียูเพื่อพิจารณาเงินช่วยเหลือให้แก่กรีซ ซึ่งการประชุมรอบนี้เป็นครั้งที่ 3 ทางกลุ่มทรอยกาได้บรรลุข้อตกลง และมีการอนุมัติเงินช่วยเหลือให้แก่กรีซจำนวน 4.4 หมื่นล้านยูโร โดยบรรลุข้อตกลงที่จะลดหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของกรีซเหลือ 124% ภายในปี 2020 และต่ำกว่า 110% ในปี 2022 มาตรการเพื่อบรรลุลดภาระหนี้สินของกรีซ ประกอบด้วยการซื้อคืนพันธบัตรของกรีซ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากสินเชื่อภาครัฐลง 1% ขยายอายุเงินกู้ออกไปอีก 15 ปี เป็น 30 ปี และเลื่อนกำหนดชำระดอกเบี้ยออกไปอีก 10 ปี

อย่างไรก็ดีราคาทองคำปรับตัวแรงตั้งแต่วันศุกร์สัปดาห์ก่อน (23 พฤศจิกายน) เนื่องจากมีแรงเก็งกำไรจากการคาดหวังว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือในการประชุมรอบนี้ ทำให้เริ่มมีแรงเทขายออกมาจากบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังทราบผลการประชุม นอกจากนี้ตลาดมีความหวังว่าสหรัฐฯ จะสามารถแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลัง (Fiscal Cliff) หลังจากที่นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันแสดงความเชื่อมั่นว่า พรรครีพับลิกันจะสามารถทำข้อตกลง

จับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจีน พ.ย. ดันทองพุ่ง


ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว ด้านนักวิเคราะห์ แนะจับตา ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจีน เดือนพฤศจิกายนซึ่งคาดว่า จะปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน เชื่อดันทองพุ่งในช่วงสัปดาห์หน้า…

ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวกลับในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับราคาปิดของวันอังคาร ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญในทางเทคนิคได้ จึงทำให้ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิคยังไม่ชัดเจนว่า จะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่องมากนัก ปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสนใจยังอยู่ที่เรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,724.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.65 ดอลลาร์ ราคาทำจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,728 และ 1,718 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% วานนี้ขายออกที่บาทละ 25,100 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 25,000 บาท

SPDR ถือทองรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์


กองทุน SPDR เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้นอีก 1.21 ตัน ส่งผลให้ล่าสุด ถือครองทองคำแท่ง รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,347.02 ตัน นักวิเคราะห์แนะซื้อเก็งกำไร เชื่อมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอีก…

ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบในการซื้อขายช่วงกลางวัน ก่อนที่ในการซื้อขายช่วงค่ำจะมีแรงขายกลับออกมามาก จนราคาปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา จนราคาดีดตัวลดช่วงการติดลบลง ประเด็นข่าวต่างๆ โดยรวมแล้วยังไม่มีประเด็นใหม่ทั้งในด้านบวกและลบ การปรับตัวลงแรงของราคาทองในการซื้อขายเมื่อคืนนี้จึงอาจเป็นคำสั่งขายตามปัจจัยทางเทคนิค หลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้

ทองยังแกว่งตัวในกรอบแคบ รอลุ้น สหรัฐแก้ปัญหาเศรษฐกิจ


ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ หลังนักลงทุนรอลุ้น การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่ กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ถือครองทองคำแท่งขนาดใหญ่ รายงานว่ามีการเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้น 3.61 ตัน…

ราคาทองคำและราคาโลหะเงินยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ตลอดการซื้อขายในช่วงกลางวัน แต่ในช่วงค่ำการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ได้กดดันให้ราคาทองปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับ รายงานข่าวเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงในการปรับเป้าหมายในการลดหนี้ของกรีซ ที่จะนำมาสู่การอนุมัติเงินช่วยเหลือเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง แต่ด้วยประเด็นดังกล่าวได้สะท้อนไปในราคาทองคำและโลหะเงินแล้วในระดับหนึ่ง จึงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองค่อนข้างน้อย ประกอบกับประเด็นลบ จากกรณีของปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ จึงกดดันให้ราคาทองกลับอ่อนตัวลง ในช่วงค่ำที่ผ่านมา

ทองแกว่งตัวแคบ รอความชัดเจนเรื่องเงินช่วยกรีซ


คาดราคาทองคำ ยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ หลังนักลงทุนขอรอดูความชัดเจนเรื่องการตัดสินใจให้เงินช่วยเหลือกรีซ และการแก้ไขปัญหา fiscal cliff ของสหรัฐฯ…

ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบตลอดการซื้อขายช่วงกลางวันและการซื้อขายช่วงค่ำ โดยเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา หลังจากราคาดีดตัวขึ้นแรงในการซื้อขายวันศุกร์ แต่ด้วยประเด็นบวก จากการคาดการณ์ว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือในอีกไม่ช้า เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้การปรับฐานของราคาทองมีกรอบค่อนข้างจำกัด และปิดตลาดทรงตัวจากระดับปิดของวันศุกร์

โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,748.61 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 3.89 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,746 และ 1,752 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 25,400 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 25,300 บาท กองทุน SPDR ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือทอง โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำแท่งรวม 1,340.2 ตัน

ทองฟื้นตัว หลังกรีซมีแนวโน้มได้เงินช่วยเหลือ


ทองฟื้นตัว หลังกรีซมีแนวโน้มได้เงินช่วยเหลือคาดราคาทองคำฟื้นตัว หลังได้รับปัจจัยบวก ทั้งเรื่องที่กรีซมีแนวโน้มจะได้รับเงินช่วยเหลือ รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจสดใสขึ้น จากการคาดการณ์ยอดการใช้จ่ายของชาวสหรัฐฯ ในช่วงวันหยุดที่มีมากขึ้น…

ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบตลอดการซื้อขายช่วงกลางวัน ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามามาก ในการซื้อขายช่วงค่ำหลังจากที่ตลาดการเงินของสหรัฐฯ กลับมาเปิดทำการ แต่ยังเป็นการเปิดทำการเพียงครึ่งวัน จึงทำให้ปริมาณการซื้อขายยังมีไม่มากนัก

โดยราคาทองได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจสดใสขึ้น จากการคาดการณ์ยอดการใช้จ่ายของชาวสหรัฐฯ ในช่วงวันหยุดที่มีมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองดีดตัวขึ้นมา