เช้าต้นสัปดาห์ราคาทองคำขยับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาและเป็นการปรับตัวขึ้นของทองคำติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ จากปัจจัยแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า รวมถึงความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,350.00 | 50,450.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,436.76 | 51,250.00 |
วันนี้ -250 | -50 | |
20 พฤษภาคม 2568 | เวลา 10:38 น. | (ครั้งที่ 6) |
ข่าวข่าวหุ้น
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นปริมาณค่อนข้างมาก จากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ราคาทองคำนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดพุ่งขึ้นใกล้ระดับแนวต้านสำคัญทางเทคนิค 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามเช้านี้ทองตลาดโลก(Gold Spot) เคลื่อนไหวทะลุแนวต้านดังกล่าวแตะระดับ 1,134 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว

คาดสัปดาห์นี้ทองฟื้นขึ้นต่อเนื่อง ส่วนในประเทศเช้านี้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าหนุนทองขึ้น 2 ครั้งรวม 100
เช้านี้ราคาทองคำตลาดโลกขยับขึ้นจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ส่วนทองในประเทศเช้านี้ปรับขึ้นแล้ว 2 ครั้งรวม 100 บาท โดยเป็นผลจากเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 35.39 บาทต่อดอลลาร์มากสุดในรอบกว่า 6 ปี
ราคาทองคำนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวัน 5 เนื่องมาจากความไม่แน่นอนหลังจากจีนประกาศลดค่าเงินหยวนติดต่อกัน 2 วันทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความปั่นป่วนและร่วงหนัก
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้กระตุ้นความสนใจให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ เนื่องจากทองคำนั้นซื้อขายกันในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อเงินดอลลาร์อ่อนจะทำให้ทองคำมีราคาถูกลง
ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องมาจากนักลงทุนต่างเฝ้ารอติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะเสร็จสิ้นในช่วงดึกคืนวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญานการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเป็นวันแรกในรอบหลายวัน เนื่องมาจากได้รับปัจจัยบวกจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญานช่วงเวลาการขึ้น