ราคาทองคําวันนี้

ทองร่วงใกล้ 1,300$ หลังรายงานเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ในประเทศเปิดตลาดเช้านี้ลง 150

ราคาทองคำปรับตัวลดลงใกล้แนวรับสำคัญบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ปรับตัวกันขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

โดยรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นได้บ่งชี้ถึงการเติบโตของเศรษฐกิจของสหรัฐที่สดใส โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการเบื้องต้นประจำเดือนมีนาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 55.5 และจากกระดับ 53.3 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ส่วนตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนกุมภาพันธ์ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ในขณะเดียวกันมีรายงานจาก กองทุน SPDR Gold Trust ว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงอีก 1.80 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 816.97 ตัน และเป็นการขายต่อเนื่องติดกัน 2 วันทำการ

ทองเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบ หลังร่วงลงต่อเนื่องหลายวัน คาดรอปัจจัยใหม่ ในประเทศเช้านี้คงที่จากเมื่อวาน

ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบ หลังจากปรับตัวลดลงปริมาณมากต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วกว่า 3% ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา ทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเล็กน้อย คาดเป็นผลจากการเข้าซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังจากเมื่อวันจันทร์ทองคำร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์

ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบมากขึ้น โดยมีประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเป็นแรงกดดันต่อทองคำในขณะนี้ ส่วนทางด้านสถานการณ์ความขัดแยงระหว่างรัชเซียและชาติตะวันตก ยังส่งแรงหนุนต่อทองคำได้ค่อนข้างน้อย

ในขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การที่กองทุน SPDR Gold Trust ได้เข้าถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 4.5 ตัน นั้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า อาจเป็นผลมาจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก ส่วนเมื่อวานนี้ กองทุนได้ปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 2.7 ตัน ทำให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำ รวม 818.77 ตัน

ทองร่วงต่อเนื่องและต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ คาดขายทำกำไรจากที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศเช้านี้ลงอีก 150 บาท

ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องหลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาฟื้นตัวขึ้นได้ โดยคาดว่าปัจจัยที่ทำให้ทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาและเป็นการร่วงลงต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ มาจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลง 24.8 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,311.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดมาจากแรงขายทำกำไร หลังจากทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ โดยทองคำทะยานขึ้นราว 9% นับตั้งแต่ต้นปี 2557 หลังจากปี 2556 ทองคำร่วงลงไปทั้งสิ้น 28% โดยเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2527

ประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดว่า

ทองฟื้นระยะสั้นจากประเด็นความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ทิศทางยังถูกดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ในประเทศเช้านี้ลง 100

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์หลังจากช่วงต้นสัปดาห์ร่วงลงหนักกว่า 3% จากประเด็นสถานการณ์ในยูเครนเริ่มผ่อนคลายลงและการส่งสัญญานการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของประธานธนาคารกลางสหรัฐ หลังยุติการผ่อนคลายทางการเงินแล้วราว 6 เดือน ส่วนประเด็นการฟื้นตัวของราคาทองในวันศุกร์ มาจากสถานการณ์ในประเทศยูเครนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังสหภาพยุโรปและสหรัฐเริ่มตอบโต้รัสเซียโดยการขยายขอบเขตการคว่ำบาตรครอบคลุมบุคคลสำคัญชาวรัสเซียเพิ่มขึ้นอีกและรวมถึงพันธมิตรของประธานาธิบดีของรัสเซีย ส่วนทางด้านรัสเซียก็ตอบโต้ชาติตะวันตกด้วยการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่และสมาชิกสภาคองเกรส 9 คนของสหรัฐ และหากสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นหรือมาตรการคว่ำบาตรทวีความรุนแรงมากขึ้นจะส่งผลบวกต่อทิศทางราคาทองคำให้สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง

โดยภาพรวมของราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมา(17-21 มี.ค.) พบว่าปรับตัวลงปริมาณมากเป็นสัปดาห์แรกหลังปรับขึ้นติดต่อกันกว่า 6 สัปดาห์ จากประเด็นความ

ปลายสัปดาห์ทองฟื้นตัวขึ้นได้ จากดอลลาร์อ่อนค่าและในยูเครนกลับมาตึงเครียด สัปดาห์นี้ในประเทศลงรวม 600 บาท

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกหลังจากรัสเซียควบรวมไครเมีย โดยภาวะเช่นนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง

โดยล่าสุดนั้น สหรัฐได้ขยายขอบเขตการคว่ำบาตรรัสเซีย จากกรณีที่รัสเซียได้แทรกแซงเขตปกครองตนเองไครเมียของยูเครน ซึ่งการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ และประเทศพันธมิตรในยุโรปได้ออกมาเตือนว่า การดำเนินการเพื่อดึงไครเมียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียนั้น จะนำไปสู่การใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม รวมทั้งการใช้มาตรการแบ่งแยกทางการทูต

ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันหลังที่ร่วงลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ทองคำก็ยังคงปรับตัวย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์นับแต่เดือน

ทองลงแล้ว 4 วันติด จากเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยและยูเครนคลี่คลายไปในทางที่ดี ในประเทศสวนทางเช้านี้ขึ้น 100

ราคาทองคำปรับตัวลงติดต่อเข้าวันที่ 4 ตั้งแต่วันจันทร์ต้นสัปดาห์ร่วม 3.66% หลังประเด็นแรกเริ่มที่กระตุ้นให้ทองคำดีดตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้ามาจากสถานการณ์ในยูเครนที่มีความตึงเครียด และเมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายลงราคาทองก็เริ่มร่วงลง ในขณะเดียวกันประเด็นที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง อีกทั้งยังมีข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีรายงานออกมาตลอดทั้งสัปดาห์ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อราคาทองในขณะนี้

โดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยรวมพบว่าออกมาดีเกินคาด โดยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนกุมภาพันธ์พุ่งขึ้น 0.5% ขณะที่ ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิดแอตแลนติกพุ่งขึ้นแตะระดับ 9 โดยทั้งสองรายงานนี้พบว่าเป็นปรับตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พบว่าเพิ่มขึ้น 5,000 ราย แต่ก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด และตัวเลขยอดขายบ้านมือสองเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 0.4% และเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนกรกฎาคมปี 55 ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้