ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง44,050.0044,150.00
ทองรูปพรรณ43,251.4844,650.00
วันนี้ 450-50
22 พฤศจิกายน 2567เวลา 15:13 น.(ครั้งที่ 12)

ข่าวข่าวเศรษฐกิจ


ตลาดหุ้น เตรียมพร้อมรับมือไฟดับ


ตลาดหลักทรัพย์เตรียมพร้อมรับมือไฟดับ เผยมีไฟสำรองพร้อมเพื่อไม่ให้ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์สะดุด ส่วนโบรกเกอร์น่าจะมีระบบสำรองไฟอยู่ตามอาคารสำนักงานอยู่แล้ว…

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงพลังงานจะประภาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานและอาจมีการดับไฟ หรือหยุดจ่ายไฟบางพื้นที่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการดับไฟในพื้นที่ไหน และในช่วงเวลาใด แต่ในความเห็นส่วนตัว เชื่อว่าทางรัฐบาลคงจะไม่หยุดจ่ายไฟในพื้นที่ใจกลางธุรกิจ หรือปล่อยให้เกิดไฟดับขึ้น มิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ และเชื่อว่าน่าจะมีทางออกที่ดีได้ ที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวม

สำหรับในส่วนของตลาดหลักทรัพย์นั้น มีระบบไฟสำรอง พร้อมรับมือทั้งในกรณีไฟกระชากและในกรณีไฟดับ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีระบบเติมน้ำมันที่สามารถนำมาปั่นไฟฟ้าได้ และสามารถมีไฟใช้อยู่ได้หลายวัน

ม.หอการค้าปรับเป้าใหม่โต 4.8-5.3% หลังเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณโตแรง


เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณโตแรง ม.หอการค้า ปรับเป้าใหม่โต 4.8-5.3% ชี้มีโอกาสโตเกินกรอบ หากเศรษฐกิจโลกฟื้นชัด การเมืองไทยไร้ปัญหา ยันยังไม่เห็นฟองสบู่ มองหมดเวลาดอกเบี้ยขาลง แต่จะพลิกเป็นขาขึ้นช่วงไตรมาส 3 เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่า มีสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ศูนย์ฯ จึงได้ปรับประมาณการณ์อัตราเติบโตของปี 56 ใหม่ โดยคาดว่าจะเติบโตในกรอบ 4.8-5.3% หรือมีค่ากลางที่ 5% และมีโอกาสเติบโตได้มากกว่า 5.3% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 4.5% หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความชัดเจนมากขึ้น และการเมืองไทยไม่มีปัญหา

“ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโต มาจากรัฐบาลยังคงอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าประมาณปลายไตรมาส 2 น่าจะมีเม็ดเงิน

ทองไทยผันผวนหนักวันเดียวปรับขึ้น-ลง 7 รอบ


ทองไทยผันผวนหนักช่วงเช้าเปิดตลาดรับอรุณทองร่วงนำร่องก่อน 550 บาท และมีการปรับเปลี่ยนระหว่างวันอีกรวมทั้งสิ้น 7 รอบ ก่อนปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเปิดตลาดสมาคมค้าทองคำประกาศลดราคาทองคำลงทันที 550 บาท แล้วนั้น ระหว่างวันราคาทองคำยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง โดยความเคลื่อนไหวทั้งวันของราคาทองคำในวันนี้ (21 ก.พ.) มีการปรับ 7 ครั้ง โดยครั้งแรกที่เปิดตลาด เมื่อเวลา 09.28 น. ปรับตัวลดลงทันที 550 บาท หลังจากนั้นครั้งที่ 2 เวลา 10.10 น. ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมา 50 บาท

ส่วนครั้งที่ 3 ราคาทองคำปรับลดลง 50 บาท โดยเวลาห่างจากการปรับขึ้นของครั้งที่ 2 ไม่ถึง 1 ชั่วโมง การปรับราคาครั้งที่ 4 เมื่อเวลา 13.01 น. ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 50 บาท และเวลาผ่านไป 41 นาที ราคาทองคำได้ปรับเป็นครั้งที่ 5 ของวัน โดยปรับขึ้น 50 บาท

ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ลดการถือทองลง 8.88 ตัน


ราคาทองคำเริ่มดีดตัวกลับหลังจากปรับตัวลงแรงในการซื้อขายวันพุธ แม้ว่าจะถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งดีดตัวแข็งค่าขึ้นตอบรับความเป็นไปได้ ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยุติการผ่อนคลายทางการเงิน แต่ด้วยราคาทองที่ต่ำลงดึงดูดให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,576.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,555 และ 1,584 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ขายออกที่บาทละ 22,250 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,150 บาท กองทุน SPDR รายงานวานนี้ว่า มีการปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลง 8.88 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,290.31 ตัน

ราคาทองคำ คงยังจะถูกความกังวลจากเรื่องรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณการยุติการผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับรายงานตัวเลขภาคการผลิตของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ที่ยังมีแนวโน้ม

น้ำมันดิ่ง หุ้นมะกันปิดลบจากข้อมูล ศก.อเมริกา ทองคำทรงตัว


เอเอฟพี – ราคาน้ำมันดิ่งหนักและตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบพอประมาณวานนี้(21) หลังนักลงทุนกังวลต่ออุปสงค์อันอ่อนแอและข้อมูลทางเศรษฐกิจอันย่ำแย่ของอเมริกา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลังนี้กลับผลักให้ทองคำบวกเล็กน้อย เนื่องจากก่อความหวังว่าเฟดอาจตัดสินใจคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 2.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวตามข้อมูลกิจกรรมการผลิตในยูโรโซนของมาร์กิต อีโคโนมิกส์ ที่ระบุว่าดัชนีคำสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนกุมภาพันธ์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน อยู่ที่ 47.3 จุด ลดลงจาก 48.6 จุดของเดือนมกราคม

ปิดตลาดหุ้นไทย พฤหัสบดีที่ 21 ก.พ.56 ลบ 17.90 จุด อยู่ที่ 1,528.74 จุด


ปิดตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ. ที่ระดับ 1,528.74 จุด ลดลง 17.90 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 60,357.20 ล้านบาท ….

ปิดตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ.2556 ที่ระดับ 1,528.74 จุด ลดลง 17.90 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 60,357.20 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 246 หลักทรัพย์ ลดลง 464 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 101 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
2. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

ประเมินสิ้นปีค่าบาทมีสิทธิ์แตะ 28บาท ต่อ 1$


นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจตลาดเงิน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานชมรมเอซีไอ ประเทศไทย หรือชมรมฟอเร็กซ์ ที่มีนักค่าเงินของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งเป็นสมาชิก เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทของไทยมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และในระยะกลางหรือภายในสิ้นปีนี้ ค่าเงินบาทมีโอกาสจะทะลุ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ลงมาแตะที่ 28 บาทต่อดอลลาร์ และเป็นไปได้ในระยะเวลา 3-4 ปี ข้างหน้า มีโอกาสเห็นค่าเงินบาทแตะที่ 25 บาทต่อดอลลาร์

“สภาพคล่องไหลเข้ามาลงทุนในเอเชียและไทยมากขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ยังอยู่ในระดับต่ำอีก 2-3 ปี นอกจากนั้นภาวะเศรษฐกิจเอเชียที่ยังดีอยู่ ยังทำให้เงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้น และจะเกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้า”

นายศรัณย์ กล่าวอีกว่า ธนาคารทหารไทยได้แนะนำให้ลูกค้าปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ด้วยการซื้อประกันความเสี่ยงไว้ และเมื่อเห็นว่าผู้ประกอบการมีกำไรจากการขายสินค้า หักค่าธรรมเนียมในการซื้อประกันแล้ว ยังมีกำไรตามที่ต้องการ สำหรับในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทย(พฤหัสบดีที่ 21 ก.พ.56) ลบ 12.08 จุด


ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ.ที่ระดับ 1,534.56 จุด ลดลง 12.08 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 30,866.29 ล้านบาท

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ.2556 ที่ระดับ 1,534.56 จุด ลดลง 12.08 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 30,866.29 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 257 หลักทรัพย์ ลดลง 358 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 143 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)

กองทุนปั่นราคา ดึงทองดิ่งเหว เปิดตลาดร่วง550บาท


เปิดตลาดทองร่วง 550 บาท ด้านนายกสมาคมค้าทอง ชี้เหตุจากกองทุนปั่นราคา แนะนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นอย่าถือยาว

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เปิดตลาดราคาทองคำปรับตัวลดลงทันที 550 บาท โดยราคาทองคำแท่งรับซื้อที่ 22,050 บาท ขายออก 22,150 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 21,724.28 บาท ขายออก 22,500 บาท

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า เปิดตลาดราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงทันที 550 บาท ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์กันไว้อยู่แล้ว เหมือนที่เคยบอกแล้วว่าปีนี้ราคาทองคำจะผันผวนสูง ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวลดลงมากก็มีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนที่อยากจะซื้อไว้เก็งกำไรแนะนำให้รอดูตลาดอีก 1-2 วันก่อน โดยการเก็งกำไรแนะนำให้เก็งกำไรในระยะสั้น อย่าถือยาว

ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ลดการถือทองลง 20.77 ตัน


มีแรงขายกลับออกมามาก หลังจากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ในการซื้อขายช่วงเย็น ก่อนที่ในช่วงค่ำแรงกดดันจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัว จนอาจมีการปรับรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำปรับตัวลงแรงต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,562.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 41.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,558 และ 1,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 22,700 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,600 บาท กองทุน SPDR รายงานวานนี้ว่ามีการปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลง 20.77 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,299.19 ตัน

กนง.มีมติ 6 ต่อ 1 คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.75%


กนง.เมินแรงกดดันการเมือง ยืนกรานไม่ลดดอกเบี้ยนโยบาย ตัดสินใจ 6 ต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ 2.75% เชื่ออัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเอื้อต่อเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ดีในช่วงที่ผ่านมา และจะยังโตได้ดีต่อเนื่อง…

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบายการเงิน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวแถลงผลการประชุม กนง.ว่า กนง.มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 เสียงต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรอายุ 1 วัน) ไว้ที่ 2.75% เนื่องจากเห็นว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีความเหมาะสม ที่จะเอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในอัตราที่ดีได้ โดยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและเป้าหมายเงินเฟ้อเอาไว้ได้ โดยกรรมการ 1 ท่าน เห็นสมควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพื่อลดความเสี่ยงจากเงินทุนเคลื่อนย้าย และเห็นว่าเศรษฐกิจในภาพรวมยังมีความเปราะบาง

ปิดตลาดหุ้นไทย(พุธที่ 20 ก.พ.56)บวก 14.57 จุด อยู่ที่ 1,546.64


ปิดตลาดหุ้นไทยวันพุธที่ 20 ก.พ. ที่ระดับ 1,546.64 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 63,091.92 ล้านบาท ….

ปิดตลาดหุ้นไทยวันพุธที่ 20 ก.พ.2556 ที่ระดับ 1,546.64 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 63,091.92 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 394 หลักทรัพย์ ลดลง 271 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 156 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
2.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)