ราคาทองคําวันนี้

ทองยังถูกกดดันจากเศรษฐกิจสหรัฐสดใสทำให้คาดเฟดจะลด QE เร็วขึ้น ในประเทศวันนี้ลง 50 บาท บาทอ่อนช่วยหนุน

ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากข้อมูลตัวเลขกิจกรรมภาคที่อยู่อาศัยสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาด โดยดัชนีราคาบ้านพุ่งขึ้น 13.3% สูงสุดในรอบ 7 ปี และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 6.2% สูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจพิจารณาปรับลดวงเงินมาตรการ QE ภายในการประชุมครั้งต่อไปเดือนหน้านี้

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมายังมีรายงานเศรษฐกิจอย่างรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐได้ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน ลดลงสู่ระดับ 70.4 จากระดับ 72.4 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบสกุลเงินเยนญี่ปุ่น

ทองดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงหนักสัปดาห์ที่แล้ว คาดระยะสั้น ในประเทศได้อานิสงส์ร่วมด้วยเงินบาทอ่อนถึง 32 ทำเช้านี้ทองพุ่ง 350 บาท

เมื่อวานนี้ภาพรวมราคาทองคำยังอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ในขณะที่ช่วงค่ำของเมื่อวานต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้ราคาทองเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้ภาพการเคลื่อนไหวระยะสั้นทางเทคนิค เริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากราคาปรับตัวลดลงในสัปดาห์ก่อนกว่า 3% แต่อย่างไรก็ตามภาพการเคลื่อนไหวในระยะ กลางและระยะยาว ยังคงอยู่ในช่วงขาลง

รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงอีก 3.30 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำ รวม 848.91 ตัน ซึ่งเป็นการขายต่อเนื่องกัน 6 วันแล้ว

ด้านรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐวันนี้มี ยอดอนุญาตสร้างบ้าน, ยอดสร้างบ้าน และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งโดยรวมยังไม่มีปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง ส่วนประเด็นหลักที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจตัดสินใจชะลอการผ่อนคลายทางการเงินเร็วขึ้น ยังเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองมีแนวโน้มอ่อนตัว

ทองคำยังมีแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง อาจมีสลับฟื้นตัวสั้นๆ ในประเทศบาทอ่อนยังหนุนต่อเนื่องให้ทองเช้านี้ขึ้น 50 บาท

ราคาทองคำสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ หลังจากปรับตัวลงแรงในช่วงต้นสัปดาห์กว่า 3.4% และนับเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน จากแรงกดดันของสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขานรับรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกิดคาด ในขณะที่นักลงทุนต่างคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะพิจารณาปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินเร็วขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ ดังนั้นราคาทองในระยะนี้มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบลงไปในทิศทางปรับตัวลง

รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่าได้ลดการถือครองปริมาณทองคำลงต่อเนื่อง 5 วันทำการ ซึ่งเมื่อวันศุกร์(22)ที่ผ่านมาลดการถือครองทองคำลงอีก 4.5 ตัน โดยปัจจุบันกองทุนเหลือการถือครองทองคำทั้งหมดรวม 852.21 ตัน

ในขณะเดียวกันนักวิเคราะห์หลายรายเห็นว่า ปีนี้ความต้องการทองคำจากจีนไม่สามารถชดเชยแรงเทขายในตลาดทองคำจากกองทุนตะวันตกได้

สัปดาห์นี้ทองร่วงหนักสุดรอบ 4 เดือน แนวโน้มยังขาลง ตามเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะด้านแรงงาน ในประเทศทั้งสัปดาห์ลง 550 บาท

ภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(18-22 พ.ย.) ปรับตัวลงไปกว่า 3% และเป็นการปรับตัวลดลงหนักที่สุดในรอบ 4 เดือนหลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านตลาดแรงงานของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งเกิดคาด ประกอบกับมีการรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมา(29-30 ต.ค.) ซึ่งมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจมีการพิจารณาปรับลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงิน(QE ) ในการประชุมครั้งถัดไป

นักลงทุนวิตกกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฉพาะข้อมูลด้านแรงงาน อาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มพิจารณาการปรับลดขนาดมาตราการ QE หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ลดลง 21,000 ราย สู่ระดับ 323,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาที่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 344,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว