ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง50,600.0050,700.00
ทองรูปพรรณ49,694.4851,500.00
วันนี้ 15050
19 พฤษภาคม 2568เวลา 09:49 น.(ครั้งที่ 3)

ข่าวข่าวเศรษฐกิจ


ลุ้นสัปดาห์หน้า บาทแข็งเกิน29บาทต่อดอลลาร์


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด สัปดาห์หน้าค่าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.00-29.40 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตาสัญญาณการชะลอตัวของกระแสเงินทุนไหลเข้า

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 16 ปี ก่อนลดช่วงบวกลงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังทะลุผ่านระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 29.50 และได้เข้าทดสอบแนวต้านใกล้ 29.10 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้า และคำสั่งขายเงินดอลลาร์ ที่มาจากหลายด้าน ขณะที่ ทางการไทยยังไม่ส่งสัญญาณใช้มาตรการดูแลค่าเงินบาท แต่กระนั้นเงินบาทได้ลดช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับการชะลอตัวของเงินทุนไหลเข้า และแรงขายอย่างหนักในตลาดหุ้นไทย ในวันศุกร์ (22 มี.ค.56) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.29 เทียบกับระดับ 29.52 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 มี.ค.56)

แฉ “โปรแกรมเทรดดิ้ง” พ่นพิษ! เคาะอัตโนมัติผสมหุ้นตกทำหุ้นไทยกู่ไม่กลับ


ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงกรณีที่ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และโดยเฉพาะล่าสุด วานนี้ (ศุกร์ที่ 22 มี.ค.56) ที่ปรับลดไปถึง 60 จุดนั้นว่า นอกจากจะเกิดจากความวิตกกับกรณีการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจทำให้ทางการออกมาตรการสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินบาทแล้ว ยังกังวลกับข่าวลือการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับกรณีปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาทให้สามี รวมทั้งวิตกกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ ประเด็นที่เข้ามาซ้ำเติมตลาดให้ปรับตัวลงอย่างหนัก คือ การถูกบังคับขาย (Force Sale) ของนักลงทุนที่ใช้บัญชีมาร์จิ้นเพื่อซื้อหลักทรัพย์ หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาถึงระดับที่ต้องโดนบังคับขายเพื่อตัดความเสียหายของนักลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังโดนแรงขายจากโปรแกรมเทรดของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่ตั้งโปรแกรมกำหนดให้ขายหุ้นออกมาอัตโนมัติหากดัชนีปรับลงมาถึงระดับที่กำหนดไว้ โดยเป็นการขายออกมาทุกระดับราคายิ่งกดให้ดัชนีหุ้นไหลรูดลงอย่างรุนแรง

หุ้นสหรัฐฯกระเตื้องแดนบวก นักลงทุนลุ้นสถานการณ์ไซปรัส


หุ้นสหรัฐฯกระเตื้องในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนยังมีความหวัง ในสถานการณ์ด้านการเงินในไซปรัส เพราะรัฐบาลเตรียมเคาะแผน 2 ในการโอบอุ้มประเทศต้นสัปดาห์หน้า…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มี.ค.2556 ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวในแดนบวก หลังจากนักลงทุนเริ่มมีความหวังเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไซปรัส ที่จะมีการปรับแผนโอบอุ้มประเทศใหม่ในอาทิตย์หน้า ส่งผลให้ดัชนีเฉลี่ย
อุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิด +90.54 จุด หรือ +0.63% อยู่ที่ 14,512.03
เอสแอนด์พี 500 ปิด +11.09 หรือ +0.72% อยู่ที่ 1,556.89 และ
แนสแดค ปิด +22.4 จุด หรือ +0.70% อยู่ที่ 3,245.00

ทองคำตลาดนิวยอร์คปิดร่วง7.7ดอลลาร์


สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 7.7 ดอลลาร์ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นอันเนื่องมาจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไซปรัส โดยคาดว่าความไม่แน่นอนของแผนให้ความช่วยเหลือไซปรัสจะยังคงกระตุ้นให้นักลงทุนถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ที่มาโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ฮั่วเซ่งเฮง คาดสัปดาห์หน้าวิกฤติการเงินในไซปรัส ยังกระทบต่อทิศทางราคาทอง


สัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุแนวต้านที่ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ และขึ้นไปสูงสุดที่ 1,615 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา จากที่ไซปรัสจะมีการออกมาตรการเก็บภาษีเงินฝาก เพื่อแลกกับการขอความรับช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศ วงเงิน 1 หมื่นล้านยูโรนั้น โดยไซปรัสจะมีการเก็บภาษีผู้ฝากเงินธนาคารในอัตรา 6.7% สำหรับเงินฝากที่ต่ำกว่า 100,000 ยูโร และอัตรา 9.9% สำหรับเงินฝากที่สูงกว่า 100,000 ยูโร

อย่างไรก็ดี ทางรัฐสภาของไซปรัสได้ลงมติคัดค้านมาตรการเก็บภาษีดังกล่าว ยิ่งทำให้ตลาดกังวลว่า ไซปรัส อาจจะเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศ และอาจทำให้วิกฤติยูโรโซนลุกลามไปยังประเทศอื่น

สำหรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นพิเศษ และดำเนินโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนต่อไป จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5% ในแถลงการณ์หลังการประชุมธนาคารกลาง

ปิดตลาดหุ้นไทยสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 22 มี.ค.56) ลบ 50.55จุด ซื้อขายทะลุ1แสนล้าน


ปิดตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 22 มี.ค.2556 ที่ระดับ 1,478.97 จุด ลดลง 50.55 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 101,361.64 ล้านบาท

ปิดตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 22 มี.ค.2556 ที่ระดับ 1,478.97 จุด ลดลง 50.55 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 101,361.64 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 96 หลักทรัพย์ ลดลง 677 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 36 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 8.80บาท -0.40 (-4.35%)
2.TRUE บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 7.40บาท -0.40 (-5.13%)

นักลงทุนเทขายหุ้นเล็ก ดึงดัชนีฯร่วงหนักกว่า60จุด


“ไพบูลย์” ระบุ นักลงทุนเทขายหุ้นเล็กหลังปรับขึ้นแรงตัวการทำหุ้นร่วงหนัก ยัน ตลาดหุ้นยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจในการลงทุน แนะหากต้องการลงทุนหุ้นเล็กควรศึกษาและใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน

เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 22 มี.ค.2556 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับลดลงแรงในวันนี้ (22 มี.ค.56)ว่า สาเหตุเกิดจากการขายทำกำไรของนักลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก จากเสียงเตือนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงที่ผ่านมาถึงการปรับตัวขึ้นสูงของหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งพอเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาการขายก็จะออกมาเป็นลูกโซ่ลามกันไปเรื่อยๆ

“ถ้าติดตามข่าวก็ไม่มีข่าวอะไรที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าหุ้นขนาดเล็กปรับขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรงและวันนี้ที่เราเห็นก็คือแรงขายในหุ้นขนาดเล็ก นักวิเคราะห์ต่างๆ ที่ให้สัมภาษณ์ก็จะบอกว่าตลาดหุ้นโดยรวมยังดูดีอยู่แต่ยกเว้นหุ้นขนาดเล็กที่อาจจะมีแรงขายลักษณะเก็งกำไรเข้ามามากผิดปกติ ผมคิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นสาเหตุ”

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 22 มี.ค.56) ร่วงหนัก 60.58 จุด กังวลรัฐบาลล่ม!พ.ร.บ.2ล้านล้าน


ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยสุดสัปดาห์วันศุกร์ที่ 22 มี.ค.2556 ที่ระดับ 1,468.94 จุด ลดลง 60.58 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 52,874.79 ล้านบาท

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 22 มี.ค.2556 ที่ระดับ 1,468.94 จุด ลดลง 60.58 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 52,874.79 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 72 หลักทรัพย์ ลดลง 677 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 24 หลักทรัพย์

จากความกังวลรัฐบาลล่ม กรณีผลักดันพ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท ว่าอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลล่ม  ขณะเดียวกันยังกังวล นายกฯอาจเกิดอุบัติเหตุการเมืองจากกรณี ปล่อยกู้ 30 ล้านบาท ให้กับสามีนอกสมรส