ราคาทองคำตั้งแต่ต้นสัปดาห์ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบบริเวณระดับ 1,119-1,125 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามทองคำได้รับปัจจัยบวกจากความวิตกกังวลเศรษฐกิจจีน และเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 51,500.00 | 51,600.00 |
ทองรูปพรรณ | 50,573.76 | 52,400.00 |
วันนี้ 250 | 250 | |
24 พฤษภาคม 2568 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
ข่าววิเคราะห์ทอง
ราคาทองคำเมื่อวานที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องมาจากตลาดเงินตลาดทุนของสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ(Labor’s Day) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลราคาทองคำตลอดทั้งวันเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน 1,115-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองวันนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากเป็นวันหยุดประจำชาติของสหรัฐ(Labor’s Day) ส่วนทองในประเทศระยะสั้นเป็นขาขึ้นเนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทแตะระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดลดลงเป็นวันที่ 3 หลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ แสดงให้เห็นความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ และไม่มีความชัดเจนในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ย
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงเป็นวันที่ 2 ติดต่ดกัน เนื่องจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงวันแรกในรอบ 4 วัน เนื่องจากเพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นสวนทางตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากเพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากนักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจากรายงานภาคการผลิตของจีนและสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง
ราคาทองคำเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยมีแรงหนุนสัญญานฟื้นตัวจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตามทองคำยังถูกสกัดกั้นการฟื้นตัวจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้