ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง50,550.0050,650.00
ทองรูปพรรณ49,633.8451,450.00
วันนี้ -5050
20 พฤษภาคม 2568เวลา 16:01 น.(ครั้งที่ 14)

ข่าววิเคราะห์ทอง


เช้านี้ทองทรงตัว หลังจากสุดสัปดาห์พุ่งขึ้นจากผิดหวังตัวเลขจ้างงานสหรัฐ แนวโน้มระยะสั้นปรับขึ้นได้ต่อ


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาอย่างน่าผิดหวัง โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 209,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ระดับ 233,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 6.2% จาก 6.1%

และจากเหตุผลดังกล่าวส่งผลทำนักลงทุนคลายความวิตกกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ขณะเดียวกันทองคำยังได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า และจากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยการที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงนั้น ได้กลับเป็นแรงหนุนทำให้ทองคำมีราคาถูกขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น และกลับมาเป็นที่ดึงดูดต่อนักลงทุนในการเข้าถือครองสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอย่างทองคำ

แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นนี้ น่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้หลังจากที่ปัจจัยลบต่าง ๆ ผ่านไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยสัปดาห์นี้เชื่อว่าข่าวความไม่สงบในพื้นที่ต่าง ๆ

ทองร่วง จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น หลังเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ค่ำนี้ตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่อ ในประเทศเช้าลง 100


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำโลก(Gold Spot) ร่วงลงกว่า 14 ดอลลาร์และร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องมาจากนักลงทุนต่างคาดการณ์กันว่า รายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น อาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้การลงทุนในทองคำได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ต่ำลง

ทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงภายหลังการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อวันพุธและวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

โดยในถ้อยแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐได้ระบุว่า

“กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีในไตรมาส 2 ขณะที่ภาวะในตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้น

ทองอ่อนตัวลงตอบรับตัวเลขจีดีพีสหรัฐขยายตัวเกินคาด แม้การเมืองหลายพื้นที่ยังตึงเครียด ทองในประเทศเช้านี้คงที่


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำอ่อนตัวลง ตอบรับรายงานการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่ออกมาดีกว่าที่เกินคาด กดดันทองคำให้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่วนสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองในหลายพื้นที่ยังคงเป็นแรงหนุนให้ทองคำลดลงในกรอบจำกัด

ทองคำได้ถูกลดความน่าสนใจลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 4% โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จีดีพีของสหรัฐที่ขยายตัวสูงถึง 4% นั้นอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่เร็วกว่าการคาดการณ์

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐรวมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ได้มีมติปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรลดลงสู่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และระบุว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไปอีกแม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตร

ทองคำโลกปรับลดลงตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ทองในประเทศเช้านี้ลง 100


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำอ่อนตัวลงตอบรับ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา แข็งแกร่งเกินคาด โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี และส่งผลให้ทองคำลดลงหลุดระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนประเด็นเหตุการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซาและความตึงเครียดในยูเครน ยังเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ ทำให้ราคาปรับตัวได้ไม่มาก ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเสร็จสิ้นในคืนวันนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์คปิดตลาดร่วงลงหลุดระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังสหรัฐเปิดเผยรายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกรกฏาคม ที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 90.9 จากเดือนก่อนหน้า โดยตัวเลขดังกล่าวถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งนักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

ส่วน การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะเสร็จสิ้นในวันนี้(วันพุธที่ 30 ก.ค.) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรลงอีก 1

ทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบ คาดรอผลการประชุมเฟดในวันค่ำวันพุธ ในประเทศเช้านี้บาททรงตัว ทองขึ้น 50


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้เช้านี้ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังเมื่อวานนี้ทองคำอ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยสถานการณ์ความตึงเครียดทั้งในยูเครนและตะวันออกกลางยังคงกระตุ้นให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเข้าซื้อทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่วนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่เริ่มขึ้นในวันนี้เป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจ

สถานการณ์รุนแรงในฉนวนกาซาและความตึงเครียดในยูเครน ยังเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองปรับตัวลงในกรอบค่อนข้างจำกัด และเริ่มมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นหลังอ่อนตัวลงในปริมาณมากในการซื้อขายสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นในระดับสูงรอบ 5 เดือนได้กดดันให้ราคาทองปรับขึ้นได้ในกรอบค่อนข้างจำกัด

ขณะเดียวกัน นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่ต่างจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐว่าจะออกมาเป็นอย่างไร โดยธนาคารกลางสหรัฐมีกำหนดประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลาสองวัน ในวันนี้และวันพรุ่งนี้(29-30 กรกฎาคม) โดยนักลงทุนคาดว่าหลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ

เช้าทองปรับลงใกล้หลุด $1,300 หลังวันศุกร์ดีดตัวขึ้นแรง กลางสัปดาห์ติดตามประชุมเฟด ในประเทศบาทแข็งต่อเนื่องเช้านี้ทองลง 50


แนวโน้มราคาทองวันนี้เช้าวันนี้ราคาทองปรับลดลงหลังจากเมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านทองคำดีดตัวขึ้นเหนือโซนรับสำคัญ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดในยูเครนและฉนวนกาซามีเพิ่มมากขึ้น

โดยต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำถูกกดันอย่างหนักจากการแข็งค่าของสกุลเงินสหรัฐ เป็นผลมาจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่แสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านตลาดแรงงานและภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสร้างความกังวลใจแก่นักลงทุนที่ว่า แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เนื่องจากหลังการการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งก่อน นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้กล่าวไว้ว่า

หากตลาดแรงงานเติบโตได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ก็เป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ความตึงเครียดทั้งในฉนวนกาซาและยูเครน ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และช่วยพยุงราคาทองให้ปรับลดลงในกรอบจำกัด ซึ่งคาด

สุดสัปดาห์ทองพุ่งกลับขึ้นเหนือ $1,300 หลังหุ้นสหรัฐอ่อนแรง ความกังวลเหตุการณ์ในฉนวนกาซา ในประเทศเสาร์ขึ้น 150


แนวโน้มราคาทองสัปดาห์หน้าศุกร์สุดสัปดาห์ราคาทองตลาดโลกปิดตลาดดีดตัวกลับขึ้นเหนือแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลง รวมถึงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในฉนวนกาซาและความตึงเครียดในยูเครน โดยจากเมื่อวันก่อนหน้าทองคำเพิ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองพุ่งขึ้นหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง หลังจากมีการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากบริษัทรายใหญ่ๆ อย่างอเมซอนและวีซ่า ซึ่งได้ฉุดบรรยากาศของตลาด ซึ่งทำให้นักลทุนหันมาต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เทรดเดอรยังกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในฉนวนกาซา และความตึงเครียดทางการเมืองดังกล่าวเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นของราคาทองได้ถูกสกัดไว้ด้วยข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมิถุนายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนที่แล้ว และตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวขึ้น 0.5%

ทองร่วงต่อเนื่องต่ำสุดรอบ 1 เดือน จากดอลลาร์แข็งเศรษฐกิจสหรัฐสดใส กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศเช้านี้ลงอีก 100


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันโดยร่วงลงไปแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนโดยนับตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. หลังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงนี้ ในขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้อุปสงค์ในทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยปรับตัวลดลง ในประเทศค่าเงินบาททิศทางยังแข็งค่าทำให้ราคาทองในประเทศลดลงมากกว่าปกติ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องและร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนกว่าที่ระดับ 1,290 ดอลลาร์ต่ออนซ์ นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายที่าผ่านมา โดยนักวิเคราะห์มองว่านักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะข้อมูลด้านแรงงานและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งข้อมูลนี้เป็นประเด็นหลักที่ธนาคารกลางสหรัฐจะนำไปพิจารณาแนวโน้มการยุติมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือมาตราการ QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ขณะเดียวกันกระแสคาดการณ์อย่างต่อเนื่องว่าธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี อาจจำเป็นต้องออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ