ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง50,600.0050,700.00
ทองรูปพรรณ49,694.4851,500.00
วันนี้ 150-50
19 พฤษภาคม 2568เวลา 16:18 น.(ครั้งที่ 13)

ข่าววิเคราะห์ทอง


ทองเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,290–1,310$ คาดยังรอปัจจัยใหม่ ในประเทศเช้านี้คงที่จากเมื่อวาน


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,290–1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากที่เมื่อวานราคาปรับลดลงจากแรงขายทำกำไร หลังเมื่อวันศุกร์ราคาทองดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดร่วงลง 5.2 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,298.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทำกำไร หลังจากทองคำพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับเมื่อวันศุกร์ทองคำพุ่งขึ้นจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐต่ำกว่าคาด

และนอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า กองทุน ETF ทองคำได้ลดการถือครองทองคำลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเมื่อวัน

ทองฟื้นตัวเหนือ 1,300$ ได้เมื่อวันศุกร์ วันนี้คาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ในประเทศเช้านี้เปิดตลาดคงที่จากวันเสาร์


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ในขณะที่ภาพรวมของราคาทองคำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3และทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ทั้งสัปดาห์ทองคำกลับสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 0.7%

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำอย่างตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงผันผวนโดยก่อนประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้กดดันราคาทองผ่านการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ อีกทั้งจากหลายๆปัจจัยทั้งในระยะสั้นอย่างสถานการณ์ในคาบมุทรไคเมียก็ผ่อนคลายลง รวมถึงผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปก็ยังไม่มีมาตราการใดๆออกมา ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงถูกลดความน่าสนใจลง

และประเด็นหลักที่ตลาดเฝ้าจับตาอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐประจำเดือนมีนาคมได้ประกาศออกมาเมื่อคืนวันศุกร์ พบว่าตัวเลขขยายตัวน้อยกว่า

ทองดีดตัวขึ้นเหนือ $1,300 อีกครัง หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐต่ำกว่าคาด ในประเทศเสาร์นี้ขึ้น 150 บาท


แนวโน้ม ราคาทองคำสัปดาห์หน้าราคาทองคำดีดตัวขึ้นกลับมาแตะเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่งผลให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะแข็งแรงพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐเดินหน้าปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ มาตรการ QE ลงต่อไปหรือไม่

กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนอัตราว่างงานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 6.7% โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมีนาคม ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม และอัตราว่างงานของสหรัฐจะลดลงสู่ระดับ 6.6% ในเดือนดังกล่าว จาก 6.7% ในเดือนก่อนหน้า

ซึ่งจากที่ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวที่ต่ำกว่าการคาดการณ์อาจจะเพิ่มแรงกดดันต่อคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐในการ

ทองโลกลงเล็กน้อย ในประเทศคงที่จากเมื่อวาน คาดรอข้อมูลการจ้างงานสหรัฐคืนนี้และคาดว่าจะส่งผลให้ราคาผันผวนมาก


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย เหตุเพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากการประชุมของธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อต่ำ ซึ่งคาดว่าเป็นปัจจัยกดดันแค่ระยะสั้น ส่วนคืนนี้นักลงทุนต่างเฝ้าติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ โดยคาดว่าจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำให้ขึ้นลงผันผวน

ผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)เมื่อคืนนี้ โดยสรุปแล้ว อีซีบียังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติมแม้ว่ารายงานการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อของยุโรปจะเคลื่อนไหวในระดับที่สร้างความกังวลต่อภาวะเงินฝืดที่อาจเกิดขึ้น แต่หลังการประชุมมีคำแถลงจาก นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ยืนยันว่าพร้อมที่จะใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นหากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำนานเกินไป และอีซีบีคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันคือ 0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจากถ้อยแถลงดังกล่าว ส่งผล

ทองดีดตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อหลังร่วงหนักก่อนหน้า ส่วนแนวโน้มยังขาลง ในประเทศรับอานิสงส์เช้านี้ขึ้น 200


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาหลังจากที่ราคาปรับตัวลงติดต่อกันร่วม 5 วันทำการหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในภาคการผลิต อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มราคาทองที่เป็นขาลงอย่างชัดเจนคาดว่าจะเป็นแค่การปรับขึ้นทางเทคนิคในระยะสั้น ส่วนทิศทางยังจะคงปรับลดลงต่อไป ในขณะที่ประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ที่การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมีนาคมของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาทองคำกลับมาผันผวนอีกครั้ง

ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาถึงแม้จะออกค่อนข้างดีแต่ก็ไม่อาจบดบังแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนที่ทำให้ทองฟื้นตัวขึ้นได้ โดย ADP บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมราว 1.91 แสนตำแหน่ง ซึ่งใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ และสะท้อนให้เห็นว่าการจ้างงานในภาคเอกชนฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับปกติหลังฤดูหนาวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ส่วน

ทองแม้เคลื่อนไหวในกรอบแต่ยังอยู่ช่วงขาลง เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเป็นปัจจัยหลักกดดัน ในประเทศเช้านี้ลงอีก 50 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องโดยเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดระดับต่ำสุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์นับตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเข้าสู่แนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน หลังจากถูกกดดันจากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและประเด็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเร็วกว่าที่คาดการณ์ โดยหลังจากที่ราคาเริ่มหลุด 1,300 ดออลาร์ต่อออนซ์ลงมา ก็ยังคงมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนให้ความน่าสนใจในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลดน้อยลง และโยกเงินลงทุนกลับเข้าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น หลังจากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและประเด็นความขัดแย้งในยูเครนเริ่มผ่อนคลายลง ในขณะที่ กองทุน SPDR Gold Trust ได้ลดการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่่้่องล่าสุดอยู่ที่ระดับ 810.8 ตัน

ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาพบยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM) เปิดเผย ว่า ดัชนีภาคการผลิต

ทองร่วงฉุดไม่อยู่ แนวโน้มยังขาลง ปลายสัปดาห์คาดข้อมูลแรงงานสหรัฐกดดันต่อ ในประเทศเช้านี้ลง 150


แนวโน้ม ทิศทางราคาทองราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วันทำการ คาดจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ทยอยประกาศออกมาแสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่งผลกดดันราคาทองใหัปรับตัวลงลง ในขณะที่นักลงทุนต่างรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐโดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาทองแกว่งตัวผันผวน

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐส่วนใหญ่ออกมาค่อนข้างดี จึงเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงลงสู่ระดับ 1,283.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยธนาคารกลางสหรัฐ สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะทางธุรกิจในภาคการผลิตของเท็กซัสในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นแตะ 4.9 ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจมีการดีดตัวขึ้นในเดือนนี้ ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน(ISM) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) เขตชิคาโกเดือนมีนาคม เคลื่อนไหวที่ระดับ 55.9 และถึงแม้ว่าลดลงจากเดือนที่แล้ว แต่เนื่องด้วยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของชิคาโกมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า

แนวโน้มราคาทองยังโดนกดดันต่อจากเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง สัปดาห์นี้ตามรายงานการจ้างงาน ในประเทศเปิดตลาดคงที่


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา(24-28 มี.ค.)ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและเป็นการปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 กว่า 2.8% หลังสหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกหลังยุติมาตราการ QE ลงราว 6 เดือน ส่งผลให้ราคาทองลดลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์และเคลื่อนไหวหลุดระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 4/2556 ขยายตัวในอัตรา 2.6% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.4% เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการประมาณการในครั้งก่อน ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่อสัญญานการการเติบโตที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ หนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น และกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง

ส่วนประเด็นสถานการณ์ในยูเครนที่คาดว่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำนั้น พบว่าความตึงเครียดได้กลับมาผ่อนคลายลง เนื่องจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา และ