ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง50,600.0050,700.00
ทองรูปพรรณ49,694.4851,500.00
วันนี้ 150-50
19 พฤษภาคม 2568เวลา 16:18 น.(ครั้งที่ 13)

ข่าววิเคราะห์ทอง


ทองเคลื่อนไหวผันผวนตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ในประเทศทั้งสัปดาห์ขึ้น 100 บาท ทั้งเดือนก.พ. ขึ้น 1,050 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์(24 ก.พ.-28 ก.พ.) พบว่า เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ และปรับขึ้นลงตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีออกมา ซึ่งเมื่อคืนทีผ่านมารายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์สหรัฐปรับตัวดีขึ้น ส่งผลกดดันราคาทองให้ปรับตัวลดลง

โดยรายงานจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 81.6 จากระดับเดือนมกราคม ที่ระดับ 81.2 เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ

ซึ่งความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้บ่งชี้ว่า การใช้จ่ายอาจจะเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่สหรัฐต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวที่เลวร้ายในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันต้องอยู่แต่ในที่พักอาศัยมากกว่าที่จะออกไปจับจ่ายใช้สอย

นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหยวนของจีน ก็เป็นปัจจัยถ่วงราคาทองด้วย เนื่องจากเงินหยวนที่อ่อนแรงจะทำให้ทองมีราคาแพง

ทองขึ้นเล็กน้อย หลังกังวลวิฤติการเมืองยูเครน และเศรษฐกิจสหรัฐซบเซาตอบรับประธานเฟดมีแนวโน้มชะลอ QE


แนวโน้มราคาทองคำในช่วงนี้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นเล็กน้อยและเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบมากขึ้น หลังจากมีความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในประเทศยูเครน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ประกอบกับรายงานเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาออกมาในเชิงลบ ในขณะที่ถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐชะลอตัวลงเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะชะลอแผนการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หากเศรษฐกิจซบเซาลง ซึ่งทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นระยะสั้น ตอบรับปัจจัยดังกล่าวข้างต้น

เมื่อคืนนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภา ว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐ ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ อาจเป็นผลกระทบจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐก็จะเฝ้าติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งหลังจากคำแถลงดังกล่าวแล้วก็มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาซึ่งยังคงมีสัญญาณ

ทองร่วง! หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนดีเกิดคาด คืนนี้จับตาประธานเฟดแถลง ในประเทศวันนี้ลงแล้ว 200 บาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำร่วงลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการหลังปรับตัวสูงขึ้นมามาก โดยโดนกดดันจากหลายปัจจัยทั้งแรงขายทำกำไร และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะรายงานยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้นตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์กัน ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐเปิดเผยข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่สำหรับครอบครัวเดี่ยวพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่งในเดือนมกราคม ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.6% ที่ระดับ 468,000 ยูนิตในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2551 และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะลดลงสู่ระดับ 400,000 ยูนิต จากเดือนธันวาคมปีที่แล้วที่ระดับ 427,000 ยูนิต

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งในประเทศยูเครนและประเทศไทย ทำให้ยังมีส่วนช่วยหนุนราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น

ทองพุ่งต่อเนื่อง 4 วัน หลังรายงานเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญานชะลอตัว แนะระวังแรงขายหลังขึ้นสูง ในประเทศเช้านี้ขึ้นอีก 100


ราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ท่ามกลางรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีสัญญานชะลอตัว เป็นเหตุผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตของสหรัฐ รวมทั้งแนวนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐต่อการปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงิน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ราคาทองปรับตัวขึ้นมามาก จะต้องมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา เพราะฉนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังในการเก็งกำไรทองคำในระยะนี้ด้วย

นักลงทุนยังคงเพิ่มการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังคงมีสัญญาณชะลอตัว โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยของภาคเอกชนได้รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ ของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 78.1 จุด จากระดับ 79.4 จุด ในเดือนมกราคม

ขณะที่ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ รายงานว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนธันวาคม 2556 ปรับตัวสูงขึ้น 13.4% จากเดือนเดียวกันของปี 2555 หลังเพิ่มขึ้น

ทองพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังตัวเลขเศษฐกิจสหรัฐมีสัญญานชะลอตัว และวิกฤติความรุนแรงในยูเครน ในประเทศเช้านี้ทรงตัวหลังเมื่อวานขึ้น 150


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐที่มีสัญญานชะลอตัว รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศยูเครนที่เกิดความรุนแรงขึ้น ประกอบกับความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีนและอินเดีย ได้เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่ในขณะนี

อย่างไรก็ตาม ภาวะการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนก็มีส่วนสร้างแรงจำกัดราคาทองคำไม่ให้ทะยานตัวสู่ระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว โดยราคาบ้านในประเทศจีนชะลอตัวครั้งแรกในรอบ 14 เดือน โดยราคาบ้านใหม่เฉลี่ยใน 70 เมืองใหญ่ของจีนเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 9.6% จากเดือนธ.ค. ที่เพิ่มขึ้น 9.9% ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวลง

ส่วนรายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่าได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำอีก 3.3 ตัน โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 801.61 ตัน ซึ่งถือเป็นการเข้าซื้อทองคำติดกัน 2 วันทำการ

และจากหลายๆ ปัจจัยที่พบในช่วงนี้ทำใหัภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่เริ่มมี

ทองคำยังเคลื่อนไหวในระดับสูง คาดหากปรับฐานแข็งแกร่งระดับนี้ได้ จะขึ้นได้ต่อ ในประเทศเช้านี้ทรงตัว ตามต่อค่าเงินบาท


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สลับมีแรงขายทำกำไรทางเทคนิคเมื่อระดับราคาสูงขึ้นมาก แต่จากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีสัญญาณชะลอตัว ส่งผลให้มีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามา

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีออกมา โดยหากมีรายงานเศรษฐกิจตัวใดออกมาต่ำกว่าคาดจะเป็นแรงหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ ตรงกันข้ามหากมีรายงานออกมาดีกว่าที่คาด ก็จะส่งผลเป็นปัจจัยลบกดดันราคาทองให้ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ประเด็นหลักที่กดดันราคาทองยังอยู่ที่ การปรับลดมาตราการผ่านคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นเศรษฐกิจจากทั่วโลกนอกจากสหรัฐ ก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อทิศทางและการเคลื่อนไหวของราคาทอง ไม่ว่าจะเป็นรายงานเศรษฐกิจจากกลุ่มยูโรโซน เอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย เนื่องจากสองประเทศนี้เป็นประเทศผู้บริโภคทองคำมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รวมทั้งประเด็นเศรษฐกิจจาก

ราคาทองคำยังยืนเหนือ $1,300 คาดเริ่มเคลื่อนไหวปรับฐานราคาให้แข็งแกร่ง ในประเทศทั้งสัปดาห์ขึ้น 250 บาท


แนวโน้มราคาทองคำภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์นี้(17-21 ก.พ.) พบว่าปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถทำจุดสูงสุดได้ในรอบ 3 เดือนที่ระดับราคา 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลทองคำกลับมาได้รับความสนใจ อีกทั้งมีรายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่าเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนแรกที่ซื้อมากกว่าขาย หลังจากปีที่แล้วกองทุนเทขายทองออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อทิศทางทองคำ เนื่องจากนักลงทุนสถาบันเริ่มขายทองลดลง

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราคาทองพุ่งขึ้นก็มีแรงเทขายทำกำไรทางเทคนิคสลับออกมา ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าราคาทองคำเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อสร้างฐานราคาให้มั่นคง และประเด็นที่ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางของราคาทองคำ ยังอยู่ที่ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตราการ QE ลงต่อไป เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ 3 สาขา ได้ออกมาแสดง

ทองคำปรับตัวลง หลังรายงานประชุมเฟดส่งสัญญานปรับลด QE ต่อไป ในประเทศอานิสงส์บาทอ่อน ทองลงได้น้อยกว่าปกติ


ราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากที่ปรับขึ้นติดต่อกันนานหลายวัน จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากทราบรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุดประจำเดือนมกราคมเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฟดได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนการลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตรการ QE แม้มีรายงานเศรษฐกิจบางตัวที่อ่อนแรงกว่าที่คาดและมีความปั่นป่วนในตลาดเกิดใหม่ก็ตาม และจากประเด็นดังกล่าวข้างต้น ส่งผลบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ออกมาไม่ดีตามที่คาด ส่งผลให้ภาพรวมราคาทองคำเมื่อวานนี้มีการแกว่งตัวอย่างมาก โดยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมกราคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.20% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.60% ส่วนรายงานจำนวนการสร้างบ้านใหม่เดือนมกราคม ร่วงลง 16% ส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์บรรเทาความร้อนแรงลง ซึ่งหากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่มีออกมาส่งสัญญานชะลอตัวต่อเนื่อง อาจ