ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ถือทองลดลง 7.22 ตัน
โดยราคาทองคำในสัปดาห์ก่อน(22-26 เมษายน 2556)โดยรวมแล้ว ปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยยังเป็นการฟื้นตัวกลับจากแรงซื้อของนักลงทุนในเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความต้องการซื้อทองคำ จากความต้องการใช้จริง ประกอบกับรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำ ของธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ จึงส่งผลให้ราคาทองคำโดยรวมแล้วฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ปิดตลาดปรับฐานลงเล็กน้อยในการซื้อขายวันศุกร์(26 เม.ย.56) ซึ่งปิดที่ 1,462.28 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ปรับตัวลดลงจากระดับปิดขอวันพฤหัส 3.67 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,448 และ 1,485 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ
ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์(27 เม.ย.56)ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 20,350 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 20,250 บาท ทองรูปพรรณชนิด 96.5% ขายออกที่บาทละ 20,750 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,950.56 บาท กองทุน SPDR รายงานว่ามีการลดการถือครองทองคำลง 7.22 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,083.05 ตัน
ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงค่อนข้างผันผวนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ราคาที่ปรับตัวลงมามาก ยังเป็นปัจจัยบวกที่ดึงดูดให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่ด้วยภาพรวมการเคลื่อนไหว ทั้งในทางเทคนิคที่ยังเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง ประกอบกับปัจจัยทางพื้นฐานในทางบวกยังไม่มีปัจจัยใหม่ ทำให้มีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจนราคาทองปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับปริมาณการติดลบที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน
โดยในการซื้อขายวันศุกร์(26 เม.ย.56) ค่าเงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าลง เมื่อมีรายงานการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐไตรมาสแรกออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน เช่นเดียวกับผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่ไม่มีมาตรการอื่นใดเพิ่มเติมในการกดดันให้ค่าเงินเยนอ่อนค่า และมุมมองของผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เกี่ยวกับเป้าหมายเงินเฟ้อ ยังคงมีความเห็นแตกต่างกัน ส่งผลให้ค่าเงินเยนดีดตัวแข็งค่าขึ้นสวนทางกับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และนักลงทุน ยังคงรอติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า จะมีการระบุถึงการยุติการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ และนอกจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ แล้ว ในสัปดาห์นี้รายงานตัวเลขการจ้างงานเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน
ดังนั้น การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารทางการเงินอื่นๆ จึงมีแนวโน้ม ที่จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบเพื่อรอความชัดเจนจากประเด็นเหล่านี้ โดยคาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1,450-1,500 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ หากดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,500 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ขึ้นไปได้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรทางเทคนิค และคาดว่าราคาทอง จะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,550-1,560 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ต่อไป แต่ในทางตรงข้ามกรณีที่ราคาทองอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,450 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก็จะเกิดเป็นสัญญาณขายที่จะเป็นการยืนยันว่า การฟื้นตัวทางเทคนิคในช่วงหลายวันที่ผ่านมากำลังจะจบลง และราคาทองคำก็จะกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อไป.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
ทองคําตลาดโลกเคลื่อนไหวระดับสูง ทองไทยบาทอ่อนช่วยพุ่งนิวไฮ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลก-ไทยเคลื่อนไหวระดับสูง
ทองคําโลกเคลื่อนไหวในระดับสูง ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง 3 วันติด
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยยังหนุนทองคำโลก-ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง
สงครามการค้าสหรัฐจีนหนุนแรงซื้อทองคําโลก-ไทยนิวไฮต่อเนื่อง
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําตลาดโลก-ไทยพุ่งนิวไฮไม่หยุด
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วง ทองไทยบาทอ่อนค่าหนุนนิวไฮ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 46,500.00 | 46,600.00 |
ทองรูปพรรณ | 45,661.92 | 47,100.00 |
วันนี้ 850 | 50 | |
10 กุมภาพันธ์ 2568 | เวลา 16:59 น. | (ครั้งที่ 13) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ