ราคาทองคําวันนี้

มีแรงขายกลับออกมามากในช่วงที่ราคาทอง ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับทางเทคนิคบริเวณ 1,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหลายครั้งที่ราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณนี้ ส่วนใหญ่มีแรงซื้อกลับเข้ามาจนทำให้ราคาฟื้นตัวกลับ แต่ในช่วงค่ำที่ผ่านมาหลังจากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จึงเกิดเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคกดดันให้ราคาปรับตัวลงแรง

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้(อังคารที่ 2 เมษายน 2556)ที่ 1,575.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 23.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,573 และ 1,603 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้(อังคารที่ 2 เมษายน 2556)ขายออกที่บาทละ 22,250 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,150 บาท ส่วน ทองคำรูปพรรณ ขายออกที่บาทละ 22,650 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 21,830.40 บาท กองทุน SPDR รายงานวานนี้ว่ามีการลดปริมาณการถือครองทองคำลง 8.13 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,208.92 ตัน

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐฯที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง และกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยให้กลับอ่อนตัวลง

โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่ลดลง 1% ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ผลสำรวจประเมินว่ายอดสั่งซื้อเดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มขึ้น 2.9% ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนมีนาคมปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 จาก 47.9 ในเดือนกุมภาพันธ์

โดยรายงานที่ออกมา แม้ว่าจะสะท้อนถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในยุโรป แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ดีกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ 46.6 นักลงทุนจึงกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงและกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลง

ส่วนประเด็นที่น่าสนใจในวันนี้ อยู่ที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย โดยคาดว่าจะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% แต่ด้วยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก และอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ต่ำกว่าระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อาจทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยลง ซึ่งจะเป็นการสร้างความประหลาดใจต่อนักลงทุน และส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงสั้นๆ

ส่วนในช่วงค่ำวันนี้ จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศของสหรัฐฯเดือนมีนาคม โดยผลสำรวจระบุว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง จากเดือนกุมภาพันธ์ หากรายงานออกมาดีกว่าที่คาด ก็จะเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทอง

อย่างไรก็ตามนักลงทุน ยังรอติดตามรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นรายงานตัวเลขที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทอง หลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงเกิดเป็นสัญญาณขายเกิดขึ้นและมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวลงต่อ โดยมีแนวรับระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,565-1,570 และ 1,555-1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ซึ่งที่แนวรับหลัง เป็นระดับแนวรับที่คาดว่าจะเป็นจุดดีดตัวกลับสำหรับการเก็งกำไรรอบใหม่ แต่กรณีที่ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ การเคลื่อนไหวโดยรวมก็จะอ่อนตัวลงตามการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อไป

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์