เชื่อมั่นทอง ม.ค. 58 ฟื้น กูรูแนะลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น ซื้อสะสมระยะยาว
โดย
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 2558 ราคาทองมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเศรษฐกิจต่างประเทศ และปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศของประเทศกรีซ โดยต้องติดตามผลการเลือกตั้งในวันที่ 25 ม.ค. นี้ ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจดังกล่าวมีโอกาสส่งผลกระทบต่อประเทศในกลุ่มยุโรปอื่นๆ เช่น โปรตุเกส สเปน ที่มีปัญหาเศรษฐกิจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบกดดันราคาจากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่อาจมีการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ยังแข็งค่า รวมถึงแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นยังประสบปัญหาเงินฝืด โดยต้องดูแนวทางของนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งต้องติดตามนโยบายทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนมกราคม 2558 พบว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.61 จุด จากเดือนธันวาคม 2557 มาอยู่ที่ระดับ 58.33 จุด จากมุมมองที่คาดว่าดือนมกราคม ทองคำในประเทศมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก ซึ่งสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำและกลุ่มผู้ค้าทองคำ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทและความต้องการทองคำช่วงเทศกาลสำคัญต้นปี
“ในช่วงต้นปีของทุกปีจากสถิติจะมีความต้องการซื้อทองคำเพิ่มในช่วงเทศกาลเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทอง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเศรษฐกิจที่กดดันตลาดทุนและอาจใช้ทองคำเป็นแหล่งพักเงินชั่วคราว แต่ในช่วงปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 ปี 2558 ยังมีปัจจัยกดดันจากประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และในช่วงครึ่งปีแรกประเด็นดังกล่าวรวมถึงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์”นายกมลธัญ กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดของราคาทองคำในช่วงครึ่งปีแรกไว้ที่ 1,250-1,350 และ แนวรับที่ 1,100-1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาทองในประเทศภายใต้ค่าเงินบาท 33 บาทต่อดอลลาร์ ประเมินแนวรับไว้ที่ 18,000 และ 17,500 บาท แนวต้าน 20,000-20,500 บาท โดยกลยุทธ์ระยะสั้นแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไร ส่วนในระยะยาวแนะนำรอซื้อสะสมในช่วงที่เฟดเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 ปี 2558