กูรูชี้ ทองโลกฟื้นตัวระยะสั้น แนวโน้มยังขาลง ในประเทศเงินบาทแข็งกดดันทองลง 50 บาท
โดยเมื่อวานนนี้(16)ราคาทองคำเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนการแก้ไขปัญหาเรื่องงบประมาณประจำปีเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง และการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ
ล่าสุดสภาคองเกรสและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายเพดานหนี้ ซึ่งจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 15 มกราคมปีหน้า และปรับเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ปีหน้าเช่นกัน โดยขั้นตอนสุดท้ายเมื่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางเปิดทำการใหม่อีกครั้ง หลังจากปิดไปตั้งแต่วันนี้ 1 ตุลาคมวันเริ่มต้นปีงบประมาณ
และจากประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ตลาดทองคำคาดการณ์ว่า ข้อตกลงในการจัดสรรงบประมาณประจำปีและเพดานหนี้นี้ก็ยังไม่มีความแน่นอนในอนาคตอันใกล้ จึงทำให้นักลงทุนคาดว่า ว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ปลายเดือนนี้ จะยังคงไม่ปรับลดมาตรการ QE ในระยะเวลาอันใกล้นี้เช่นกัน และเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำ อีกทั้งทองคำได้แรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดจีนและอินเดีย ซึ่งผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของโลกด้วย
รายงานจาก กองทุน SPDR ว่า ได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงอีก 3.60 ตัน ทำให้ปัจจุบันถือครองทองคำรวม 885.53 ตัน
ในประเทศหลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองปรับขึ้นชดเชยที่ปรับลดไปเมื่อวันก่อน และเปิดตลาดมาวันนี้ลดลงเล็กน้อย แม้ตลาดทองคำโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยถูกกดดันจากเงินบาทที่วันนี้แข็งค่าขึ้นรับข่าวสหรัฐฯ ยุติปัญหาการคลังได้ทันกำหนด โดยเช้านี้ค่าเงินอยู่ที่ระดับ 31.14-31.18 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานที่ระดับ 31.26-31.28 บาทต่อดอลลาร์ และแนวโน้มยังมีทิศทางแข็งค่าขึ้น เพราะฉนั้นติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินที่จะส่งผลโดยตรงต่อราคาทองในประเทศ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ภาพเทคนิคในระยะสั้นของราคาทองคำ ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ และหากกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,290 ดอลลาร์ ได้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไร การดีดตัวกลับขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,300 และ 1,315 ดอลลาร์ ต่อไป อย่างไรก็ตามภาพโดยรวมของราคาทองยังเป็นการเคลื่อนไหวในช่วงขาลง ดังนั้นหากราคากลับลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,250 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันอังคาร ก็จะเป็นสัญญาณขายกดดันให้ราคาปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ ต่อไป.
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวในระยะสั้นๆ แต่โดยภาพรวมระยะยาวราคาทองคำยังอยู่ในขาลง แม้ว่าสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้และยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางได้ แต่กรณีดังกล่าวเป็นเพียงการผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อครบกำหนดต้นปีหน้าก็จะต้องกลับมาหารือกันใหม่ และสำหรับแนวโน้มราคาทองคำในวันนี้ประเมินกรอบราคาทองคำในตลาดโลกที่ 1,290-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์.
ทองคําถูกเทขายหลังเมื่อวานเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อ-ดอลลาร์อ่อนค่า
มูดี้ส์ลดอันดับเครดิตสหรัฐ หนุนแรงซื้อทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้น
คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนฉุดแรงเทขายทองคําร่วงต่อเนื่อง
ดอลลาร์อ่อน-กังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐหนุนแรงซื้อทองคําพุ่ง
คืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐและคู่ค้า ฉุดแรงเทขายทองคําร่วงหนัก
แรงซื้อเก็งกำไร-เงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนทองคํา
แรงเทขายฉุดทองคําร่วงหนักหลังสหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงทางการค้า
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,550.00 | 50,650.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,633.84 | 51,450.00 |
วันนี้ -50 | 50 | |
20 พฤษภาคม 2568 | เวลา 16:01 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง