คาดทองเคลื่อนไหวปรับฐาน ข่าวลด QE ยังกดดันต่อไป ในประเทศเช้านี้ขึ้น 100 บาทตามตลาดโลก
โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบคาดเคลื่อนไหวในลักษณะของการปรับฐาน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน ในขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่าข่าวเกี่ยวกับการลดขนาดมาตราการทางการเงินลง ของธนาคารกลางสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การที่ทองไม่ได้ร่วงแตะระดับต่ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็นับเป็นสัญญาณบวกสำหรับนักลงทุน ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาทองขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาก(จันทร์ 9 ธ.ค.) ปรับตัวเล็กน้อย 5.20 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 0.42% ที่ระดับ 1,234.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
โดยนายเจฟฟรีย์ แล็คเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ และ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวในทำนองเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐจะหารือประเด็นการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 85,000 ดอลลาร์ต่อเดือนลง เพราะคิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมและเป็นการดำเนินการที่ดีที่สุดในการลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตรลงในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้จากการที่ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนจากปัจจัยดังกล่าวเพราะนักลงทุนบ้างส่วนยังตั้งข้อสงสัยว่าตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐจะแข็งแกร่งมากพอหรือไม่ ที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มต้นปรับลดมาตราการทางการเงินลงในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ โดยนักลงทุนยังคงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นปรับลดขนาดมาตราการทางการเงินนี้ในเดือนมกราคม หรือ มีนาคม ปี 2014 เพื่อเป็นการรับประกันว่าเศรษฐกิจมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งก่อน
ส่วนในประเทศเงินบาทที่เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองในประเทศตลอดเกือบ 2 เดือนทีผ่านมา ขณะนี้เงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเริ่มพักยกหลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาเมื่อวานนี้ เพราะฉนั้นหลังจากนี้ อาจจะเห็นราคาทองในประเทศค่อนข้างผันผวนตามตลาดต่างประเทศเพราะเงินบาท คงไม่ได้ช่วยพยุงราคาทองได้มากเหมือนเดิมแล้ว ส่วนเปิดตลาดทองคำในประเทศเช้าวันนี้ พบว่าทองขึ้น 100 บาท จากราคาทองตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น
ด้านแนวโน้มราคาทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ให้กรอบการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองไว้ที่ระดับราคา 1,220-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวรับถัดไปคือ 1,200 และ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ แต่หากยืนเหนือ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 1,270-1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง