คาดทองแกว่งตัวแคบช่วงวันหยุดคริสต์มาส
โดยนักวิเคราะห์คาด ราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ช่วงวันหยุดคริสต์มาส เพื่อรอความชัดเจนการแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ…
ตลาดการเงินของหลายประเทศทั้งในยุโรปและเอเชีย ที่เริ่มปิดทำการในวันคริสต์มาส ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารทางการเงินอื่นๆ แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ โดยมีประเด็นลบจากปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจ และรอติดตามการเปิดประชุมของรัฐสภาสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์เกี่ยวกับการหารือเพื่อแก้ไขปัญหานี้
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,656.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันศุกร์ที่ผ่านมาเพียง 0.38 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,652 และ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,100 บาท
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบต่อเนื่องจากเมื่อวาน เนื่องจากในวันนี้ ตลาดการเงินของประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรปที่จะยังปิดทำการต่อเนื่องในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ตลาดการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อวานนี้เปิดทำการเพียงครึ่งวัน ก็จะปิดทำการในวันนี้ และตลาดการเงินของหลายประเทศในเอเชียก็จะปิดทำการเช่นกัน การเคลื่อนไหวของราคาทอง จึงมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบโดยเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ หลังจากตลาดการเงินของสหรัฐฯกลับมาเปิดทำการในวันพุธ
อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี นักลงทุนในต่างประเทศมักเริ่มชะลอการลงทุนทำให้การเคลื่อนไหวของราคาตราสารทางการเงินต่างแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ด้วยในปีนี้ประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจและจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาตราสารต่างๆ อยู่ที่เรื่องปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ซึ่งรัฐสภาของสหรัฐฯจะเปิดประชุมอีกครั้งในวันพฤหัสนี้ และหากมีรายงานข่าวเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ปัญหาระหว่างสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำและตราสารทางการเงินอื่นๆ เคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้น
ดังนั้นการลงทุนในสัปดาห์นี้ แม้ในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองอาจแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่มีแนวโน้มว่าในช่วงปลายสัปดาห์ อาจมีการแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบที่กว้างมากขึ้น ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิคเริ่มมีสัญญาณในทางบวกมากขึ้นหลังจากปรับตัวลงแรงในการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยราคาทองเริ่มยกระดับจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของวันสูงขึ้น และเริ่มมีสัญญาณซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากเครื่องมือทางเทคนิค จึงคาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,670-1,672 และ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ต่อไป
ส่วนกรณีที่ราคาปรับตัวลงในระหว่างวัน คาดว่าจะยังมีแรงซื้อกลับเข้ามา จากแนวรับบริเวณ 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือหากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณนี้ได้ คาดว่าที่แนวรับซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของสัปดาห์ก่อนบริเวณ 1,630-1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นระดับแนวรับที่สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไรได้ต่อไป ส่วนการซื้อขายทองคำแท่งชนิด 96.5%ในระบบออนไลน์ของฮั่วเซ่งเฮง จะปิดการซื้อขายในวันนี้ และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แต่นักลงทุนยังคงสามารถซื้อขายทำธุรกรรมในช่วงเวลา 09.30-17.30 น. และจะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 26 ธันวาคม
ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 29.5-30.5 ดอลลาร์ หากราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 29.5 ดอลลาร์ ก็จะเป็นสัญญาณขายกดดันให้ราคาปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 29.0 และ 28.0 ดอลลาร์ ต่อไป ดังนั้นการเก็งกำไรฝั่งซื้อควรรอเปิดสถานะในช่วงที่ราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 29.6-29.8 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 29.5 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ก่อนที่จะปิดตลาดในแดนบวกได้ตามแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนหุ้นพลังงานยังคงมีแรงขายทำกำไรกลับออกมาจนทำให้โดยรวมแล้วดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด โดยเริ่มมีมูลค่าการซื้อขายลดน้อยลงเนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
นักลงทุนรายย่อยในประเทศมียอดการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยด้วยปริมาณ 720 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ต่างมียอดการซื้อสุทธิ โดยมีแรงซื้อเข้ามาจากบัญชีการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งวานนี้มียอดการซื้อสุทธิราว 513 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างประเทศมียอดการซื้อสุทธิเพียง 24 ล้านบาท ส่วนในตลาดอนุพันธ์ของไทยวานนี้พบว่า นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศมียอดการขายสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ SET50 ด้วยปริมาณ 153 และ 64 สัญญา ตามลำดับ
SET50 และตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากนักลงทุนขาดปัจจัยชี้นำใหม่ๆหลังจากตลาดการเงินของสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งในเอเชียปิดทำการในช่วงวันคริสต์มาส โดยมีประเด็นเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจ และการเปิดประชุมสภาของสหรัฐฯในวันพฤหัส หากมีรายงานข่าวเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาก็จะส่งผลให้มีแรงซื้อขายเข้ามามากขึ้น
การเคลื่อนไหวของ SET50 และสัญญาเดือน Z ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบแคบ และหากมีการปรับฐานเกิดขึ้นในระหว่างวัน คาดว่าแรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศจะยังคงมีกลับเข้ามาจนทำให้สัญญาดีดตัวขึ้นได้ ดังนั้นหากมีการปรับฐานเกิดขึ้นในระหว่างวันจึงยังเป็นโอกาสในการกลับเข้าเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการดีดตัวกลับ โดยมีแนวรับของวันสำหรับสัญญาเดือน Z อยู่ที่บริเวณ 930-931 จุด และหากดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 940-942 จุด ขึ้นไปได้ ภาพเทคนิคจะเกิดเป็นสัญญาณซื้อยืนยันทิศทางการฟื้นตัว แต่คาดว่าจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา จึงต้องระวังการปรับฐานที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่สัญญาเดือน Z ดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณดังกล่าว และด้วยสัญญาเดือน Z กำลังจะหมดอายุ การเก็งกำไรระยะสั้นควรมีสถานะในสัญญาเดือน H ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงกว่า
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ