คาด ทองแกว่งตัวที่ระดับ 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดยราคาทองยังมีแนวโน้ม ที่จะแกว่งตัวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้าน นักวิเคราะห์ แนะทยอยขายลดความเสี่ยง หากราคาดีดตัวขึ้น เข้าใกล้แนวต้าน บริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์…
การปิดทำการของตลาดการเงินของหลายประเทศในยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารทางการเงินต่างๆ มีการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบค่อนข้างแคบ และในช่วงกลางสัปดาห์หลังจากตลาดการเงินของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ กลับมาเปิดทำการ หากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ก็ยังมีแนวโน้มที่ราคาทองคำและตราสารอื่นๆ เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับช่วงต้นสัปดาห์
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,658.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันจันทร์เพียง 1.3 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,651 และ 1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,100 บาท
วันนี้ตลาดการเงินของประเทศต่างๆ จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง โดยนักลงทุนต่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ซึ่งทั้งการเพิ่มภาษีและการลดรายจ่ายทางการคลังจะเกิดขึ้นหากไม่สามารถหาข้อตกลงระหว่างสมาชิกจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้ทันกำหนด ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
โดยวุฒิสภาของสหรัฐฯ มีกำหนดจะจัดประชุมครั้งถัดไปในวันพฤหัสบดีนี้ แต่มีรายงานว่าไม่มีประเด็นเรื่องหน้าผาทางการคลังอยู่ในวาระการประชุม ส่วนสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯนั้นไม่ได้มีกำหนดการประชุมกันในสัปดาห์นี้ แต่มีการแจ้งต่อสมาชิกว่าอาจมีการเรียกประชุมโดยบอกล่วงหน้า 48 ชั่วโมง จึงยังมีความเป็นไปได้ที่สภาผู้แทนราษฎรอาจจะจัดการประชุมกันในสัปดาห์นี้
การเจรจาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ยังเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจ หากสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันกำหนดก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งราคาทองคำให้ดีดตัวขึ้นตอบรับ แต่หากไม่สามารถหาทางออกได้ทันกำหนดก็จะเป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงหลังจากเปิดทำการอีกครั้งหลังวันปีใหม่ ส่วนการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ ยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับการคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินการคลังของญี่ปุ่นซึ่งในวันนี้ จะมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีแนวโน้มว่าจะเลือกดำเนินนโยบายในลักษณะที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงและมีผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ในระยะสั้น จนทำให้การฟื้นตัวของราคาทองมีกรอบค่อนข้างจำกัด
โดยคาดว่าราคาทองยังมีแนวโน้ม ที่จะแกว่งตัวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,650 และ 1,635-1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังสามารถซื้อเก็งกำไรการดีดตัวกลับ และควรทยอยขายลดความเสี่ยงหากราคาดีดตัวขึ้น เข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าหากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ ราคาทองคำคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ