ตามข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้มีผลทองผันผวน ในประเทศขึ้นไม่มาก
โดย
ราคาทองคำเช้าวันจันทร์เคลื่อนไหวระดับใกล้เคียงกับเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปรับลงตัวลดลงเนื่องมาจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด ส่งผลงทำให้ตลาดกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ราคาทองคำกลับมาปรับตัวลดลงช่วงสุดสัปดาห์จากแรงเทขายทำกำไร
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐช่วงท้ายสัปดาห์ออกมาอ่อนแอ ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงต้นสัปดาห์ โดยภายรวมการเคลื่อนไหวของทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาพบมีการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,330-1,357 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาเทขายทองคำปริมาณมากถึง 19.9 ตัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กองทุน SPDR เข้าซื้อทองสูงถึง 22.3 ตันในสัปดาห์ก่อนหน้า
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้มีประเด็นเศรษฐกิจให้ติดตามกันค่อนข้างมากเริ่มจาก การเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้งล่าสุดที่ประชุมไปเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ ทั้งนี้การเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด อาจจะทำให้ตลาดตีความถึงช่วงเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดทองคำ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นคำแถลงของประธานเฟดสาขาเซ็นต์หลุยส์และประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ จะมีการประกาศตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง, การเริ่มสร้างบ้านใหม่, ยอดขายบ้านมือสอง, ดัชนีราคาผู้บริโภค และ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดเป็นรายงานตัวเลขประจำเดือนกรกฎาคม
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดทองวันจันทร์ราคาปรับขึ้น 50 บาท หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาประกาศราคาปรับลดลง 150 บาท ขณะที่ปัจจัยการแข็งค่าของเงินบาทยังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อราคาทองในประเทศ อย่างไรก็ดีเช้านี้ เงินบาทกลับมาทิศทางอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดเหตุความไม่สงบในประเทศหลายจุดเป็นปัจจัยฉุดเงินบาทไว้
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ คาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ในช่วงระหว่างวันคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,330-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,330 และ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,350-1,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
แรงขายฉุดทองคําลดลงระยะสั้น แนวโน้มยังสดใส ทองไทยบาทอ่อนหนุน
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุทองคําโลก-ไทยพุ่งแรงนิวไฮต่อเนื่อง
ทองคําขึ้นนิวไฮต่อเนื่อง จับตามาตราการภาษีสหรัฐหนุนแรงซื้อ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 49,400.00 | 49,500.00 |
| ทองรูปพรรณ | 48,512.00 | 50,300.00 |
| วันนี้ -200 | -100 | |
| 07 เมษายน 2568 | เวลา 14:12 น. | (ครั้งที่ 20) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง