ทองขึ้นรับประเด็นความขัดแย้งในยูเครนและความกังวลเศรษฐกิจจีน ในประเทศเช้านี้ขึ้น 200 บาท
โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากได้รับแรงหนุนจากประเด็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย และคาดว่าในระยะนี้ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเนื่องมาจากสถานการณ์ที่ยังคงไม่แน่นอนในยูเครน หลังจากรัฐสภาของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียมีมติรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน ซึ่งระบุว่าไครเมียจะกลายเป็นเอกราช หากชาวไครเมียประมาณ 2 ล้านคนลงคะแนนสนับสนุนการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในการทำประชามติวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ทางด้านรัสเซียก็ยังคงมีท่าทีแข็งกร้าวต่อสถานการณ์ไครเมีย
นอกจากนี้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของจีนยังคงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำ โดยกรมศุลากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ ร่วงลง 18.1% จากปีก่อน ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.1% ส่งผลให้จีนมียอดขาดดุลการค้าเดือนกุมภาพันธ์ 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
อีกทั้ง ทองคำในขณะนี้ยังได้แรงหนุนจากการที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของกลุ่มประเทศในแถบยูโรโซน โดยทั้งเยอรมนีและอังกฤษเป็นผู้นำการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ในปริมาณมาก เนื่องจากถูกกดดันจากประเด็นแนวนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หลัง นายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาฟิลาเดลเฟีย เรียกร้องให้เฟดเร่งอัตราการปรับลด QE เพิ่มขึ้นเมื่อพิจารณาถึเศรษฐกิจสหรัฐที่กระเตื้อง โดยมีมุมมองว่าการปรับลดมาตรการ QE เป็นไปในอัตราที่เชื่องช้าเกินไป
แนวโน้มและทิศทางของของราคาทองคำในระยะนี้ จากปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปัจจัยหนุน จึงทำให้คาดว่า ทิศทางและแนวโน้มของราคาทองคำในระยะสั้น จะยังคงปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนค่อนข้างจะผกผันในระยะเวลาสั้น ดังนั้นจึงควรติดตามข่าวและประเด็นเศรษฐกิจของสหรัฐ ยูโรโซน และประเทศเกิดใหม่อย่างจีน อินเดีย อย่างใกล้ชิด
ส่วนในประเทศ เงินบาทเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัว ซึ่งมีประเด็นส่งผลต่อค่าเงินบาท คือการประชุมของ กนง. โดยนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดว่า กนง. อาจจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% และหากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจริง จะส่งผลให้ค่าเงินบาทมีสิทธิ์อ่อนค่าได้ และจะเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในประเทศ ส่วนเช้าวันนี้เปิดตลาดราคาทองในประเทศได้รับอานิสงส์จากทองคำต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น ทำให้ทองในประเทศปรับขึ้น 200 บาท
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองในวันนี้ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีปัจจัยบวกจากปัญหาระหว่างยูเครนและรัสเซีย ดังนั้นหากราคาทองอ่อนตัวลงในการซื้อขายระหว่างวัน ยังสามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไร โดยมีแนวรับของวันอยู่ที่บริเวณ 1,330-1,335 และ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ และหากสามารถผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,350-1,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรการปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,370-1,375 และ 1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง