ทองขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนจากดอลลาร์อ่อน ในประเทศบาททรงตัววันนี้ทองขึ้นแล้ว 100
โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ระดับ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากเพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลหลัก นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรั (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากเพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเมื่อการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นจะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
และนอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ในเดือนเมษายน ลดลง 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนเดียวกัน ลดลง 0.2% ซึ่งส่วนทางกับที่ตลาดคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่ม 0.1%
แต่อย่างไรก็มีปัจจัยกดดันต่อทองทำเมื่อราคาดีดตัวขึ้น จากรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลง 1,000 รายสู่ระดับ 264,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 15 ปี ที่ระดับ 262,000 ราย นอกจากนี้กองทุน SPDR Gold Trust ได้ลดการถือทองคำลงอีก 4.41 ตัน หลังจากต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาทีลดลงไปแล้ว 10.75 ตัน
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองคำในประเทศเคลื่อนไหว 4 ครั้งโดยปรับขึ้น 3 ครั้งและลง 1 ครั้งและสรุปราคารวมแล้วทองปรับขึ้น 300 บาท โดยเป็นผลจากทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นแตะะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ส่วนเงินบาทหลังจากเริ่มแข็งค่ามาตั้งแต่เมื่อวานทำให้ทองในประเทศขาดแรงหนุนสำคัญ ส่วนเปิดตลาดทองคำในเช้าวันนี้ ทองคำในประเทศปรับขึ้นแล้ว 2 คร้ังรวม 100 บาท ส่วนเงินบาทวันนี้ยังทรงตัวแต่แนวโน้มยังมีทิศทางแข็งค่า โดยนักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 33.45-33.55 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันในการซื้อขายช่วง 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ในระยะสั้นอาจเริ่มมีการปรับฐาน โดยมีแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 1,210 และ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นระดับแนวต้านที่คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมา แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรการดีดตัวขึ้นไปยังแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง