ทองขึ้นอย่างมีนัยยะ แม้ตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด
โดยราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นช่วงสุดสัปดาห์เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,218-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐออกมาแข็งแก่งเกินคาด แต่ราคาทองคำไม่ตอบรับมากนัก คาดต้นสัปดาห์หน้าจับตาอาจเกิดแรงเทขายออกมา
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานของสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมกราคมของสหรัฐ พุ่งขึ้น 227,000 ตำแหน่ง สูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.7%
และภายหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวได้ส่งผลบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งกว่า 100 จุดและทำสถิติปิดเหนือ 20,000 จุดอีกครั้ง ในขณะที่ดัชนี NASDAQ ก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงให้ดัชนีปิดทะยานขึ้นดังกล่าว ภายหลังจากคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้ทบทวนระบบการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อผ่อนคลายกฎระเบียบภาคการเงินที่ใช้มาตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่า จาการที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่า หากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าหรือสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์จะส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวน โดยหากตัวเลขออกมาแข็งแกร่งจะกดดันต่อราคาทองคำให้ราคาปรับตัวลดลง แต่กลับไม่พบสัญญานดังกล่าว โดยราคากลับปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ยังคาดว่าต้นสัปดาห์หน้า(6-10 ก.พ.)ต้องจับตาทิศทางราคาทองคำ อาจจะมีแรงเทขายช่วงต้นสัปดาห์ก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี จากรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐ มีตัวเลขที่น่าสนใจคือ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานสหรัฐในเดือนม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราลดลง ซึ่งคาดว่าเป็นเหตุให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จากสถานการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้นในระยะนี้ ประเด็นดังกล่าวจึงส่งสัญญานหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
ส่วนทางด้านราคาทองคำในประเทศ เปิดตลาดวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. ราคาปรับขึ้น 50 บาท หลังจากเมื่อวานราคาลดลง 50 บาท โดยตลอดทั้งวันของเมื่อวานราคาเคลื่อนไหวตอนเปิดตลาดเพียงครั้งเดียว ทั้งนี้ทองคำในประเทศยังคงได้รับแรงกดดันจากเงินบาทที่ยังแข็งค่า ส่วนสรุปราคาทองคำในประเทศทั้งสัปดาห์พบว่าปรับขึ้น 300 บาท จากสัปดาห์ก่อนหน้า
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดจะผันผวนตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่อาจจะออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยราคาทองคำมีแนวต้าน 1,225 และ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง