ทองคงระดับสูง กังวลผลกระทบ Brexit ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นไม่มาก
โดย
ราคาทองคำเช้านี้ยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง แม้ว่ารายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างงานจะออกมาแข็งแกร่งเกินคาดก็ตาม โดยทองคำเคลื่อนไหวตอบรับรายงานดังกล่าวเพียงเล็กน้อยหลังจากนั้นราคาก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ภาพรวมราคาทองคำพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลก ที่เข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 รวมทั้งสัปดาห์กองทุนเข้าซื้อทองคำทั้งสิ้น 27.4 ตัน
นอกจากนี้ตลาดทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงหลังจากความกังวลถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการที่อังกฤษได้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโปร(Brexit) ประกอบกับการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่าเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเฟดจะได้รับข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่อังกฤษลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป
ส่วนรายงานตัวเลขการจ้างานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากทั้งตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นถึง 287,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างยังประเมินว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังคงไม่สามารถทำได้เนื่องจากประเด็นผลกระทบจาก Brexit ซึ่งส่งผลให้ตลาดทองคำปรับตัวลดลงตอบรับรายงานดังกล่าวเพียงเล็กน้อย และหลังจากนั้นราคาก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับระดับช่วงกลางสัปดาห์
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ จะมีการเปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige book) รวมถึงคำแถลงของประธานเฟดสาขาแคนซัสและประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ที่จะทำให้ทราบมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทางด้านราคาทองในประเทศ เช้านี้ราคาปรับขึ้นอีก 50 บาท ต่อเนื่องจากวันเสาร์ที่ราคาปรับขึ้นมา 100 บาท ส่งผลให้เช้านี้ราคาทองยังอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ระดับราคา 22,800 บาท อย่างไรก็ดีจากการที่เช้านี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลให้ทองในประเทศขาดแรงหนุนสำคัญต่อการปรับขึ้นในช่วงนี้
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นคาดแกว่งตัวในกรอบ 1,350-1,370 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยคาดจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,350 และ 1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,370 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนทวีความรุนแรง หนุนแรงซื้อทองคําพุ่งขึ้น
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายทางเทคนิคฉุดทองคําตลาดโลก-ไทยร่วงต่อเนื่อง
แรงขายฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,300.00 | 50,400.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,391.28 | 51,200.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
10 เมษายน 2568 | เวลา 16:48 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง