ทองคำปิดบวกเป็นวันที่ 3 ส่วนภาพรวมสัปดาห์นี้ทองเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศทั้งสัปดาห์ลง 400
โดย
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดสามารถอดทนรอในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ทองคำปรับตัวขึ้นขานรับถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมครั้งล่าสุดที่ว่า เฟดสามารถ “อดทน” รอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนเดือนเมษายนปีหน้า
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาทองคำได้ถูกสกัดกั้นจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาซานฟรานซิสโกได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า
ส่วนภาพของราคาทองในสัปดาห์นี้(15-19 ธ.ค.)เป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ อย่างไรก็ตามพบว่าสัปดาห์นี้ทองคำปรับตัวลดลงในระหว่างสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ อันเนื่องมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งส่งผลให้อุปสงค์ในทองคำปรับตัวลดลง
โดยราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคม หลังจากธนาคารกลางสหรัฐใช้คำว่า “เฟดสามารถอดทนรอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ” แทนคำว่า “เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกเป็นเวลานาน” ในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในเดือนนี้
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ส่งผลให้ทองคำขาดแรงดึงดูดในการลงทุน เนื่องจากให้ผลตอบแทนเพียงจากส่วนต่างด้านราคาเท่านั้น
ด้านราคาทองคำในประเทศ ทั้งสัปดาห์นี้(15-20 ธ.ค.)พบว่า ลดลง 400 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากที่ทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่เงินบาทพบการเคลื่อนไหวอ่อนตัวต่ำกว่าระดับ 33 บาทต่อดออลลาร์ช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งส่งผลเป็นแรงหนุนต่อทองคำในประเทศให้ลดลงได้น้อยกว่าปกติ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์หน้าคาดราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบ 1,180-1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนและเทรดเดอร์ในต่างประเทศเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงวันคริสต์มาสและต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ ความผันผวนของตลาดหุ้นและราคาน้ำมัน การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้
โดยสัปดาห์หน้าสหรัฐจะมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4.1% เทียบกับตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ขยายตัว 3.9% ที่อาจจะกดดันต่อราคาทองคำผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะไร้ทิศทาง ทั้งนี้คาดว่าสัปดาห์หน้าราคาทองคำจะมีแนวรับที่บริเวณ 1,180-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,225 และ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ.
แนวโน้มทองคํายังเคลื่อนไหวในระดับสูงอย่างแข็งแกร่งจากแรงซื้อ
ความไม่แน่นอนเฟดลดดอกเบี้ยสกัดแรงซื้อทองคําปรับขึ้นได้ไม่มาก
ดอลลาร์แข็งฉุดทองคําร่วง จับตาจ้างงานสหรัฐประเมินดอกเบี้ยเฟด
ดอลลาร์แข็งค่ากดดันทองคํา คาดแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบระดับสูง
ทองคําตลาดโลกเคลื่อนไหวในกรอบทางเทคนิค รอปัจจัยชี้นำใหม่
ความไม่แน่นอนการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด-ดอลลาร์แข็งกดดันทองคํา
ทองคําฟื้น แต่ต้องจับตาหลังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนผ่อนคลายลง
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 61,150.00 | 61,250.00 |
| ทองรูปพรรณ | 59,927.48 | 62,050.00 |
| วันนี้ -150 | 50 | |
| 07 พฤศจิกายน 2568 | เวลา 11:26 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
ราคาทองคําวันนี้
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ