ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจากแรงเทขายกำไรหลังจากเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นติดต่อกัน 10 วันทำการ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสูงสุดในรอบ 13 ปี ส่วนในประเทศเปิดตลาดปรับขึ้นเล็กน้อย

ตลาดทองคำฟื้นตัวกลับขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยบวกจากการชะลอตัวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วจากการคาดการณ์ที่ว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ตลาดทองคำยังคงมีแรงกดดันจากการที่ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลก ยังคงเดินหน้าเทขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดยล่าสุดเมื่อวานนี้กองทุน SPDR เทขายทองคำทั้งสิ้นรวม 6.53 ตัน

ทั้งนี้ ราคาทองตลาดโลกได้ดิ่งลงมากกว่า 120 ดอลลาร์ นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดสำหรับช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 5 ปี โดยที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี

ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในช่วงคืนวันนี้ จะมีการประกาศยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ขณะที่ในสัปดาห์นี้ตลาดให้ความสำคัญติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดในคืนวันพุธ โดยคาดว่าในรายงานการประชุมคณะกรรมการ FOMC ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันอังคารราคาปรับขึ้นเล็กน้อย 50 บาท หลังจากเมื่อวานนี้ราคาไม่มีการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน โดยยังเป็นราคาซื้อขายตั้งแต่ประกาศราคาเมื่อวันเสาร์ ขณะที่เงินบาทเช้านี้ยังมีแนวโน้มแข็งค่าหลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งส่งผลกลับมาเป็นปัจจัยลบต่อทองในประเทศ

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,220 และ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,200-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวคาดจะมีแรงเทขายอย่างหนักอีกรอบและจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,190 และ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์