ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และแนวโน้มคาดคงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อ เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ
โดยราคาทองคำโดยรวมแล้วยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจากปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามาส่วนใหญ่แล้วมีผลต่อการเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาทองไม่มากนัก และยังไม่พบมีปัจจัยใหม่ๆ ที่เข้ามาชี้นำทองคำในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามประเด็นหลักอย่างตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐนักลงทุนก็ยังให้ความสนใจเป็นพิเศษ รวมถึงประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองในยูเครนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนเสร็จสิ้นลงไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมถึงประเด็นการเมืองในไทยหลังการเข้ายึดอำนาจ
และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาด กดดันราคาทองให้อ่อนตัวลง โดยยอดขายบ้านใหม่ในเดือนเมษายนขยายตัวขึ้น 433,000 แสนยูนิต ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และลดความน่าสนใจในตลาดทองคำ
และปัจจัยหนุนที่ส่งผลให้ยอดขายบ้านในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นล่าสุดนี้มาจากต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง และสถานการณ์ด้านการจ้างงานที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฟื้นตัวขึ้นตามมา
มีรายงานจากสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า ตลาดยังเชื่อว่าแนวโน้มของราคาทองคำยังคงไร้ทิศทางที่ระดับประมาณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนกว่าจะมีปัจจัยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาด เช่น การประกาศที่เหนือการคาดหมายของธนาคารกลางสหรัฐ
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จากที่ราคาทองตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบและยังจะมีแนวโน้มว่าในสัปดาห์นี้ราคาทองคงยังจะเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวต่อไป เหตุเพราะปัจจัยต่างๆ ที่จะเข้ามาในระยะนี้ยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ ที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวขึ้นลงของทองคำมากนัก
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ ยังคงต้องจับตาค่าเงินบาทหลังจากการเข้ายึดอำนาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง และถึงแม้ว่าเงินบาทจะเริ่มทรงตัวและอ่อนค่าลงไม่มากก็ตาม เหตุเพราะยังคงมีกลุ่มที่ออกมาต่อต้านการยึดอำนาจอยู่เป็นระยะๆ ส่วนช้านี้ประกาศราคาทองครั้งที่ 1 ยังพบว่า คงที่ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ ต่อเนื่องมาวันเสาร์ โดย ราคาทองคำแท่ง ขายออกอยูที่บาทละ 19,950 และรับซื้อคืนอยู่ที่บาทละ 19,850 บาท ส่วนทองรูปพรรณา รับซื้อคืนอยู่ที่บาทละ 19,556.40 และขายออกอยู่ที่บาทละ 20,350 บาท
และสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองในสัปดาห์นี้ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า จากภาพเทคนิคของราคาทองคำพบว่า ราคาทองเคลื่อนไหวทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดในแต่ละวันบีบตัวเข้าหากัน หากยังเคลื่อนไหวต่ำกว่ากรอบแนวต้านบริเวณ 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทรงตัวเหนือแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ การเคลื่อนไหวโดยรวมก็จะเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบต่อไป และจะมีแรงซื้อขายเข้ามามากขึ้นหากราคาทองเคลื่อนไหวออกนอกกรอบแนวรับแนวต้านดังกล่าว.
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนทวีความรุนแรง หนุนแรงซื้อทองคําพุ่งขึ้น
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายทางเทคนิคฉุดทองคําตลาดโลก-ไทยร่วงต่อเนื่อง
แรงขายฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,350.00 | 50,450.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,436.76 | 51,250.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
10 เมษายน 2568 | เวลา 14:24 น. | (ครั้งที่ 13) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง