ทองคำรอเคลื่อนไหวตามผลประชุมบีโอเจวันนี้ ในประเทศบาทแข็งทองลง
โดย
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่นขึ้นเป็นวันที่ 3 โดยทองคำเคลื่อนไหวตอบรับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมครั้งล่าสุด ผ่านการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในประเทศเช้านี้เงินบาทยังแข็งค่าส่งผลลบต่อทองเปิดตลาดปรับตัวลดลง
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของเฟดมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ขณะที่เฟดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และระบุย้ำว่าจะยังคงจับตาสิ่งบ่งชี้เงินเฟ้อ รวมทั้งพัฒนาการทางการเงิน และเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป
และจากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นนำมาซึ่งข้อคิดเห็นของนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า เฟดบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ขณะที่บางรายมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม เพื่อรอให้ผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศิจกายน
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 266,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และเป็นผลผลักดันให้ทองคำฟื้นตัวกลับขึ้น
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นว่าจะมีการออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาด 28 ล้านล้านเยน ซึ่งหากในกรณีที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีการออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมคาดว่าจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นและส่งผลกดดันมายังตลาดทองคำ ทางด้านรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนวันนี้จะมีการเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 2/2559 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งแรก ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มจะขยายตัวดีขึ้น
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันศุกร์ราคาปรับลดลง 50 บาท หลังจากเมื่อวานราคาปรับเพิ่มขึ้นมา 250 บาท เนื่องมาจากการฟื้นตัวขึ้นของทองคำโลกหลังสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า และผลการประชุมเฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมดังกล่าวมาข้างต้นแล้ว ส่วนเงินบาทวันนี้ยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่องซึ่งส่งผลเป็นแรงกดดันมายังราคาทองคำ โดยเช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 34.85 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวโน้มทิศทางเงินบาทวันนี้ยังมีทิศทางแข็งค่า เพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบ 1,320-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยอาจต้องระวังแรงเทขายที่แนวต้านบริเวณ 1,345-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวรับระยะสั้นที่ 1,330 และ 1,315-1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนทวีความรุนแรง หนุนแรงซื้อทองคําพุ่งขึ้น
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายทางเทคนิคฉุดทองคําตลาดโลก-ไทยร่วงต่อเนื่อง
แรงขายฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,300.00 | 50,400.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,391.28 | 51,200.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
10 เมษายน 2568 | เวลา 16:48 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง