ทองคำระยะสั้นขึ้นต่อ ตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐพรุ่งนี้
โดยราคาทองปรับลดลง หลังจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วันก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังการรายงานข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่งของสหรัฐ ในประเทศเปิดตลาดทองพฤหัสฯ เงินบาทแข็งค่า ทองคงที่
ราคาทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.18% แตะที่ 99.74 เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ทั้งนี้การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้ทองคำมีราคาแพง และไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยหนุนต่อสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐประจำเดือนมกราคม พุ่งขึ้น 246,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 151,000 ตำแหน่ง ในเดือนก่อนหน้า และการเพิ่มขึ้นของตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมกราคม เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐเดือนมกราคม ขยายตัวสู่ระดับ 55.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2015 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 54.3 ในเดือนธันวาคม
ด้านผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งเฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.50-0.75% ทั้งนี้เฟดได้แสดงมุมมองในด้านบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน โดยระบุว่าตลาดแรงงานจะยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราการว่างงานยังคงอยู่ระดับต่ำ เงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นในระยะกลางใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และเศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับปานกลาง
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในช่วงคืนวันนี้ จะมีการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยตัวเลขคาดการณ์จะลดลง ขะณะที่ในคืนวันพรุ่งนี้ นักลงทุนต่างเฝ้าติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมกราคมของสหรัฐ ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่สุดในการที่เฟด จะนำมาประกอบการพิจารณาในการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ซึ่งตัวเลขคาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันพฤหัสบดีราคาคงที่จากเมื่อวานที่ปรับขึ้น 150 บาท โดยมีปัจจัยกดดันทองคำในประเทศให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ไม่มากจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยเช้านี้เงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 35.09-35.12 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways up โดยมีแนวต้าน 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านหลักสำคัญที่ 1,220-1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,200 และ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง