ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดตลาดทองคำได้รับปัจจัยลบกดดันให้ราคาปรับตัวลดลงจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐรวมถึงการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในประเทศเงินบาทยังแข็งค่าสร้างแรงกดดันให้ราคาทองปรับลดลง

นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะขยายตัว โดยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. ของ ISM พุ่งขึ้นแตะระดับ 51.5 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากระดับ 49.4 ในเดือนก่อนหน้า และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 50.3 โดยดัชนีภาคการผลิตที่อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัว หลังจากที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ในเดือนส.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มกลับสู่ภาวะขยายตัว

ส่วนรายงานเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงคืนวันนี้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยในสัปดาห์นี้นักลงทุนเฝ้าจับตาคำแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านในช่วงปลายสัปดาห์ รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐประจำเดือนก.ย. โดยจะมีการเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนในวันพุธและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ทั้งนี้ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดว่าตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาทองคำผันผวน

ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันอังคารราคาปรับลดลง 50 บาทจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ราคาปรับลดลง 50 บาท โดยทองในประเทศปรับตัวลดลงตามทิศทางทองคำตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากปัจจัยที่ได้กล่าวมาข้างต้น ขณะทีเงินบาทเช้าวันนี้ยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับแข็งค่าอย่างต่อเนื่องซึ่งได้ส่งผลเป็นปัจจัยลบต่อทองในประเทศให้ราคาปรับตัวลดลง

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน ซึ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน โดยในบางช่วงที่มีการหลุดจากแนวรับดังกล่าวจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา ทั้งนี้ถ้าหลุดแนวรับ 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำจะมีแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระหว่างวันที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์และแนวต้านสำคัญระยะสั้นที่ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์