ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านทางเทคนิค หลังจากนั้นราคากลับลดลงหลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ระบุว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ในประเทศเปิดตลาดอังคารราคาคงที่จากเมื่อวาน

เมื่อวานที่ผ่านมาราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นทดสอบแนวต้านทางเทคนิคบริเวณ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ เนื่องมาจากได้รับแรงกดดันจากการกลับมาแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่ระบุว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี โดยอัตราว่างงานอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะที่การจ้างงานปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของค่าแรง

นอกจากนี้ แรงกดดันจากการเทขายทองคำอย่างต่อเนื่องของกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลกยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานนี้กองทุุน SPDR เทขายทองคำเป็นวันที่ 4 อีก 8.89 ตัน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุน SPDR เทขายทองคำไปทั้งสิ้นรวม 20.5 ตัน

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) โดยตลาดมีการคาดการณ์ว่า BOJ จะไม่มีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับติดลบ 0.1% รวมถึงตรึงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ 0% ต่อไป ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าการประชุม BOJ ครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อตลาดการเงินและราคาทองคำมากนัก ขณะที่รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในช่วงสัปดาห์นี้ ตลาดมุ่งความสนใจไปที่วันพฤหัสบดี ซึ่งจะมีการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย โดยตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขจีดีพีจะขยายตัว 3.3% จากที่ประมาณการครั้งก่อนขยายตัว 3.2%

ทางด้านราคาทองในประเทศเปิดตลาดวันอังคารราคาคงที่จากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ ที่ราคาปรับขึ้น 50 บาท ขณะที่แม้ภาพรวมทองคำตลาดโลกจะเคลื่อนไหวไม่มากนัก แต่ยังพบว่าทองในประเทศได้รับปัจจัยบวกหนุนจากการอ่อนค่าของเงินบาทที่ระดับ 35.85-35.90 บาทต่อดอลลาร์

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยอยู่ในช่วงทดสอบแนวต้าน 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,150 และ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,130 และ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ