ทองคำโลกขึ้นต่อจากดอลลาร์อ่อน ในประเทศบาทแข็งกดดันทอง
โดยราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนครึ่ง โดยทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และนอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลเป็นแรงกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ทองคำโคแม็กซ์ตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นกว่า 11 ดอลลาร์แตะระดับ 1,186 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 101.99 เมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ซึ่งส่งผลให้ทองคำที่ซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงและสร้างความดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงเกือบ 4% ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย ประกอบกับมีความต้อการซื้อทองคำจริงจากฝั่งเอเชียโดยเฉพาะจีนผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่งของโลกจากเทศกาลตรุษจีน รวมถึงอินเดียที่มีความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลแต่งงาน
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบเข้ากดดันต่อตลาดทองคำจาก การที่กองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลกยังคงเดินหน้าเทขายทองคำอย่างเมื่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมา กองทุน SPDR เทขายทองคำสูงถึง 8.59 ตัน
ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐคืนวันนี้ จะมีการประกาศจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนพ.ย. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ราคานำเข้าและส่งออก ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และ ยอดค้าปลีก ทั้งสามรายงานเป็นรายงานของเดือนธ.ค. รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดจะให้ความสนใจกับการแถลงของประธานเฟด สาขาชิคาโก และสาขาฟิลาเดลเฟีย เกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ ซึ่งประธานเฟดสาขาชิคาโกได้แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง มากกว่าที่คาดไว้เมื่อหลายเดือนก่อน
ทางด้านราคาทองในประเทศเปิดตลาดวันอังคาร ราคาคงที่จากปิดตลาดเมื่อวานที่ปรับขึ้น 50 บาท ทั้งนี้จะเห็นว่าทองในประเทศเช้านี้ถูกกดดันจากเงินบาทที่่แข็งระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้เปิดตลาดทองคำในประเทศไม่สามารถปรับขึ้นได้
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,185 และ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ หลังจากที่ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวรับระหว่างวันอยู่ที่ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับมาเมื่อราคาทองคำปรับฐานลงมาที่บริเวณนี้
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง