ทองคำโลกทรงตัว รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ในประเทศบาทแข็งทองคงที่
โดย
ราคาทองเช้านี้เคลื่อนไหวระดับใกล้เคียงกับระดับราคาเมื่อวานนี้ โดยราคาสามารถไต่ระดับขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ได้ในรอบกว่า 2 ปี และทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 อันเนื่องมาจากปัจจัยความกังวลของตลาดต่อภาวะเศรษฐกิจโลก หลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป(Brexit)
เมื่อมีภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองเกิดขึ้น จะผลักดันให้เกิดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น โดยความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของโลกต่อจากนี้หลังอังกฤษถอนตัวออกจากอียู เป็นปัจจัยที่จะกดดันต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลก
นอกจากนี้ปัจจัยบวกต่อทองคำมีเพิ่มมากขึ้น เมื่อตัวกลางในการซื้อขายทองคำอย่างเงินดอลลาร์มีมูลค่าลดลงส่งผลกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง มาจากการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยรายงานระบุว่า คณะกรรมการเฟดเห็นพ้องกันว่าควรมีการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าเฟดจะได้รับข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่อังกฤษลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป
ส่วนในช่วงคืนวันนี้ ตลาดให้ความสำคัญกับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐในเดือนมิถุนายน ซึ่งมีการคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ปรับตัวลดลง แต่หากกรณีที่ตัวเลขออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้คาดจะทำให้ราคาทองคำผันผวน และจะมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งมีผลต่อการคาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ราคาปรับขึ้นถึง 450 บาท โดยเป็นผลมาจากทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของทองคำตลาดโลกรวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาท ขณะที่เปิดตลาดทองเช้าวันพฤห้สบดี ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ ขณะที่เงินบาทเช้านี้เคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานเล็กน้อย ซึ่งจะส่งผลให้ทองในประเทศขาดปัจจัยหนุน คาดหลังทราบตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐในวันศุกร์จะมีความชัดเจนในทิศทางของเงินบาทและทองคำชัดเจนขึ้น
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิค คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,357-1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ถ้าผ่านแนวต้านที่ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะมีแนวต้านสำคัญที่ 1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,357 และ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ดอลลาร์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําตลาดโลก-ไทยพุ่ง
ทองคําถูกเทขายหลังเมื่อวานเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อ-ดอลลาร์อ่อนค่า
มูดี้ส์ลดอันดับเครดิตสหรัฐ หนุนแรงซื้อทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้น
คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนฉุดแรงเทขายทองคําร่วงต่อเนื่อง
ดอลลาร์อ่อน-กังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐหนุนแรงซื้อทองคําพุ่ง
คืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐและคู่ค้า ฉุดแรงเทขายทองคําร่วงหนัก
แรงซื้อเก็งกำไร-เงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 51,150.00 | 51,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 50,225.08 | 52,050.00 |
วันนี้ 600 | -50 | |
21 พฤษภาคม 2568 | เวลา 14:07 น. | (ครั้งที่ 13) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง