ทองคำโลกพุ่งสูงสุดรอบ3 เดือน กังวลความขัดแย้งการเมืองสหรัฐ
โดย
ราคาทองพุ่งขึ้นปริมาณมากเมื่อคืนที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดในรอบ3 เดือน อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านการเมืองในสหรัฐ ส่วนทองคำในประเทศได้รับอานิสงส์เปิดตลาดวันอังคารพุ่งขึ้น 150 บาท โดยมีเงินบาทยังอยู่ในระดับแข็งค่าสร้างแรงกดดัน
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แตะระดับสูงสุดใหม่ 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อห้ามประชาชนจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งได้แก่อิรัก ซีเรีย อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน
โดยคำสั่งดังกล่าวส่งผลให้เกิดการคัดค้านจากฝ่ายตุลาการ เริ่มตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ นายเจมส์ โรบาร์ต ผู้พิพากษาเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ออกคำสั่งระงับมาตรการห้ามประชาชนจาก 7 ชาติมุสลิมและผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าสหรัฐ และล่าสุดศาลอุทธรณ์สหรัฐได้ปฏิเสธคำร้องขอของรัฐบาลที่ต้องการให้ศาลยกเลิกคำสั่งให้ระงับมาตรการห้ามผู้ลี้ภัยและประชาชนจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าประเทศ
นอกจากนี้ตลาดทองคำยังคงได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง จากการกลับเข้ามาซื้อทองคำต่อเนื่องของกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลก ล่าสุดเมื่อวานนี้กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 4.14 ตัน
ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนวันนี้ จะมีการประกาศตัวเลขดุลการค้า และจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร โดยทั้งสองรายงานเป็นรายงานของเดือนธ.ค. ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขขาดดุลการค้าลดลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าหากตัวเลขไม่ออกมาต่ำกว่าหรือสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์จะไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำ
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันอังคารราคาพุ่งขึ้น 150 บาท ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ปรับขึ้น 50 บาท โดยทองคำในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางทองคำตลาดโลกหลังจากเกิดความตึงเครียดทางการเมืองของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นได้ไม่มากเท่าทองคำตลาดโลกเนื่องจากเงินบาทที่ยังแข็งค่า โดยเช้านี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 35.02-35.04 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคคาดเริ่มพักฐานและเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังจากที่ราคาปรับขึ้นร้อนแรง แต่คาดว่าเป็นการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ โดยราคาทองคำมีแนวรับระหว่างวันที่ 1,220-1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับหลักที่ 1,200-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,235และ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
แรงขายฉุดทองคําลดลงระยะสั้น แนวโน้มยังสดใส ทองไทยบาทอ่อนหนุน
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุทองคําโลก-ไทยพุ่งแรงนิวไฮต่อเนื่อง
ทองคําขึ้นนิวไฮต่อเนื่อง จับตามาตราการภาษีสหรัฐหนุนแรงซื้อ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 49,500.00 | 49,600.00 |
ทองรูปพรรณ | 48,602.96 | 50,400.00 |
วันนี้ -100 | -50 | |
07 เมษายน 2568 | เวลา 14:09 น. | (ครั้งที่ 19) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง