ทองทรงตัว รอความชัดเจนเพดานหนี้สหรัฐฯ กูรูชี้ทองลงมาก มีสิทธิ์ดีดตัวขึ้นได้
โดยสัปดาห์ที่แล้ว(7-11ต.ค.)ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยปลายสัปดาห์เกิดแรงเทขายทำกำไรอย่างหนักจากลงทุนทำให้ทองคำดิ่งแรงกว่า 3.2% หลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่ออ่อน โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดคาดการณ์ว่ารัฐบาลและฝ่ายค้านของสหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการขอเพิ่มเพดานหนี้ และงบประมาณรายจ่ายปี 2014 ได้ในอีกไม่ช้า ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานทำนิวไฮกันถ้วนหน้า
ส่วนความคืบหน้าในการเจรจาหาข้อยุติในปัญหาการคลังของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้วุฒิสภาสหรัฐฯ ยังคงไม่เห็นชอบผ่านร่างกฏหมายข้อเสนอการเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราว ที่นำเสนอโดยนาย แฮรี่ รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาพรรคเดโมแครต ด้านนายจอห์น โบห์เนอร์ โฆษกสภาผู้แทนสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โอบามา ปฏิเสธข้อเสนอในการเลื่อนเวลาขยายเพดาหนหนี้จากวันที่ 17 ตุลาคม เป็น 22 ตุลาคม แต่ข้อเสนออื่นๆ จะยังคงนำมาสู่การเจรจาหาข้อตกลงอื่นๆ กับทางทำเนียบขาวต่อไป
ด้านนักวิเคราะห์จาก Kitco คาดว่าในสัปดาห์นี้(14-18) ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากที่สหรัฐฯยังไม่สามารถหาข้อตกลงที่ชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้และการปิดตัวลงของรัฐบาลกลางบางส่วนได้ และคาดว่าปัญหาดังกล่าวจะยืดเยื้อไปจนถึงสัปดาห์หน้า(21-25)
ส่วนทิศทางและทองคำในประเทศหลังจากสัปดาห์ที่แล้วทองคำลงไปกว่า 500 บาท จากปัญหาทางการคลังสหรัฐฯ ส่งผลให้สกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันทองคำ ส่วนเงินบาทที่เคยสนับสนุนทองยังคงเคลื่อนไหวทรงตัวสลับแข็งค่าช่วงสั้นๆ จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น จึงไม่แรงพอในการหนุนทองในประเทศได้ ซึ่งแนวโน้มยังคงผันผวนตามปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะปัญหาการคลังสหรัฐฯ ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะยุติลงเมื่อใด
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองปรับตัวลงมามากเนื่องจากนักลงทุนต่างประเมินว่า รัฐบาลและฝ่ายค้านจะบรรลุข้อตกลงเรื่องปัญหาทางการคลังได้สำเร็จ หากในช่วงก่อนถึงวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคมนี้ กลับยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการบรรลุข้อตกลงได้ตามที่ตลาดประเมิน ก็จะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะนี้จึงยังมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน
ส่วนการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำซึ่งเกิดสัญญาณขายยืนยันการอ่อนตัวของราคาทองหลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,285-1,290 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ และยังมีแนวโน้มที่การเคลื่อนไหวของราคาทองจะกลับอ่อนตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,250 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ และด้วยราคาที่ปรับตัวลงมามาก จึงอาจมีการดีดตัวทางเทคนิคเกิดขึ้น โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,285-1,290 และ 1,300 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ.
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง