ทองปรับขึ้นต่อเนื่องเหนือระดับ $1,200 แนวโน้มมีโอกาสขึ้นต่อ ในประเทศบาททรงตัวทองขึ้น 100
โดยราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยเมื่อวานนี้ทองคำสามารถดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,200 ดอลลาร์ได้ หลังจากได้รับแรงหนุนมาการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์ก รวมถึงความเห็นของประธานเฟด สาขาชิคาโก ที่ระบุว่าควรปรับขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.36% แตะที่ 99.88 โดยเป็นผลจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ของสหรัฐลดลงอย่างผิดคาด
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปร่วงลง 1.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 2.8% ในเดือนมกราคม ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
ขณะเดียวกันจาการที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐร่วงลงอย่างผิดคาด ส่งผลต่อดัชนีดาวโจนส์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเกือบ 300 จุด และเป็นการปิดลบติดต่อกัน 3วันทำการ เนื่องมาจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มภาคการผลิตของสหรัฐ
นอกจากนี้ยังมีความเห็นของ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เฟดจะต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าเฟดจะมีความมั่นใจมากกว่านี้ว่า เงินเฟ้อจะขยายตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ซึ่งความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการตอกย้ำถึงมุมมองของประธานเฟดสาขาชิคาโก้ที่ต้องการให้เฟดอดทนรอจนกว่าจะถึงช่วงต้นปีหน้า
ส่วนในคืนนี้จะมีรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐที่สำคัญอย่าง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่คืนวันศุกร์จะรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศปรับขึ้น 50 บาท ส่วนค่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัวต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันนี้ โดยเปิดตลาดทองคำในประเทศเช้านี้ ทองปรับขึ้น 100 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยยังขาดแรงหนุนจากเงินบาทที่ค่อนข้างทรงตัว
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า กรณีที่ราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้านยังมีแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,210 และ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ทั้งนี้ราคาทองคำในช่วงที่ก่อนเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกุมภาพันธ์ และกังวลว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 1,200-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะปรับตัวลงมาที่ 1,142 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ดังนั้นราคาทองคำในช่วงนี้น่าจะกลับไปอยู่ที่ระดับ 1,200-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ขณะที่ระยะสั้นมีแนวรับ 1,185-1,190 และ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง